ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกแนวโน้มผลประกอบการ ฉุดฟุตซี่ปิดร่วง 86.2 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในภาคเอกชน หลังจากธนาคารซิตี้กรุ๊ปรายงานผลประกอบการที่ลดลงเกินคาด ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มการเงินปิดร่วงลง
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 86.2 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 6,644.5 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,632.1-6,751.7 จุด
          นักลงทุนในตลาดหุ้นลอนดอนมีท่าทีตื่นตระหนกหลังจากซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของสหรัฐประกาศยกเลิกโครงการซื้อคืนหุ้น หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ทรุดตัวลงถึง 57% เนื่องจากธนาคารขาดทุนจากการออกตราสารที่ค้ำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (mortgage backed security:MBS) และการตัดบัญชีหนี้สูญ เป็นวงเงินถึง 3 พันล้านดอลลาร์
          ส่วนหุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์น ร็อค ร่วงลงกว่า 20% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่าการเจรจาระหว่างนอร์ทเธิร์น ร็อคกับผู้เสนอซื้อกิจการยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'underperform' และลดเป้าหมายราคาหุ้นลงสู่ระดับ 180 เพนซ์ จากเดิมที่ระดับ 180 เพนซ์ 
          ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดิ่งลง 21 เพนซ์ ปิดที่ 626 เพนซ์ หุ้นเอชบีโอเอส ร่วงลง 27 เพนซ์ ปิดที่ 878 เพนซ์ และหุ้นธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ขยับลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 265 เพนซ์
          อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ช่วยหนุนหุ้นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่างบีพี ทะยานขึ้น 3.5 เพนซ์ ปิดที่ 622 เพนซ์ และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 14 เพนซ์ ปิดที่ 2,055 เพนซ์