ธนาคารทหารไทย(TMB) รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวานนี้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก186,003,725,370 บาท เป็น 437,087,384,790 บาท โดยการออกหุ้ นสามัญ เพิ่ม ทุน จำนวน 25,108,365,942 หุ้ น มูล ค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
ทั้งนี้ ให้จัดรรหุ้นสามัญเพิ่มทุ นของธนาคารจำนวน 25,000,000,000 หุ้นเสนอขายให้กับกลุ่มพันธมิตรใหม่จากต่างประเทศ และผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นธนาคาร เนื่องจากปัจจุบันธนาคารมีผลขาดทุนสะสม
การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบ่งเป็น จำนวนไม่เกิน 10,970,893,359 หุ้น เสนอขายแก่พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ (Strategic Partner) ที่เป็นสถาบันการเงินชั้นนำที่มีชื่อเสียง เพื่อให้เข้ามาถือหุ้น 25.20% และ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 2,141,728,186 หุ้นแก่บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด เพื่อออก NVDR ให้แก่นิติบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ของธนาคาร (Strategic Partner) เพื่อให้เข้ามาถือหุ้น 4.92%
ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 11,887,378,455 หุ้นจะเสนอขายแก่กลุ่มบุคคลโดยเฉพาะเจาะจงในประเทศ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร โดยแบ่งเป็น การจัดสรรให้กับกระทรวงการคลัง 5,586,944,825 หุ้น ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนกระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเหลือ 26.11% และ จัดสรร 6,300,433,630 หุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 พ.ย.มีสิทธิซื้อหุ้นในอัตราส่วนหุ้น 1 หุ้นเดิม ต่อ 0.4941 หุ้นใหม่
ปัจจุบัน ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขออนุญาตต่อรมว.คลังด้วยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ธนาคารมีสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยเกินกว่า 49%
TMB ระบุว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น (Price dilution) เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนจะทำให้มูลค่าต่อหุ้นของหุ้นธนาคารเมื่อคิดรวมมูลค่าตลาดและจำนวนเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ลดลงประมาณ 17.43% และจะส่งผลกระทบทำให้ ส่วนแบ่งกำไร สิทธิในการออกเสียงและสัดส่วนการถือหุ้ นของผู้ถือหุ้น(Control Dilution) ทั้งนี้สามารถคำนวณส่วนแบ่งกำไร สิทธิในการออกเสียงและสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นลดลงประมาณ 57.43%
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--