THAI คาดรายได้เพิ่มเดือนละ 2 พันลบ.หลังปรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน-ค่าตั๋ว

          นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวว่า บริษัทฯปรับอัตราค่าธรรมเนียมน้ำมัน โดยเริ่มใช้อัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ละเส้นทางจะปรับเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 5-15 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับระยะทางบิน โดยคาดว่าการปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมน้ำมันในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 2,000 ล้านบาท
          นอกจากนั้น บริษัทฯยังได้ปรับค่าตั๋วโดยสารในเส้นทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3% ทุกเส้นทาง มีผลตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เช่นกัน และในเดือนนี้คาดว่าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)เฉลี่ยจะอยู่ในระดับ 80% เพราะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว และคาดว่า cabin factor เฉลี่ยของทั้งปีจะอยู่ที่ 74-76%
          สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น เช่น เส้นทางสหรัฐจัดเก็บ 80 ดอลลาร์ จากเดิม 65 ดอลลาร์, เส้นทางยุโรป แอฟริกาใต้ อิสราเอล จัดเก็บ 75 ดอลลาร์ จากเดิม 65 ดอลลาร์, เส้นทางออสเตรเลียจัดเก็บ 55 ดอลลาร์ จากเดิม 50 ดอลลาร์, เส้นทางนิวซีแลนด์จัดเก็บ 65 ดอลลาร์ จากเดิม 60 ดอลลาร์, 
          เส้นทางญี่ปุ่นจัดเก็บ 45 ดอลลาร์ จากเดิม 35 ดอลลาร์, เส้นทางเกาหลีจัดเก็บ 40 ดอลลาร์ จากเดิม  35 ดอลลาร์, เส้นทางไต้หวัน จีน และตะวันออกกลางจัดเก็บ 35 ดอลลาร์ จากเดิม 30 ดอลลาร์, เส้นทางสิงคโปร์จัดเก็บ 21 ดอลลาร์ จากเดิม 16 ดอลลาร์, เส้นทางมาเลเซียจัดเก็บ 27 ดอลลาร์ จากเดิม 22 ดอลลาร์, เส้นทางลาวจัดเก็บ 15 ดอลลาร์ จากเดิม 10 ดอลลาร์
          ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารได้รายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบถึงการปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง(fuel surcharge) ซึ่งเรียกเก็บจากผู้โดยสารในเส้นทางการบินระหว่างประเทศ โดยสาเหตุที่ต้องปรับอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวเพราะบริษัทฯได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          "สำหรับเส้นทางบินในประเทศยังไม่มีแผนปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมันในขณะนี้ เพราะต้องการกระตุ้นให้ผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้น" ร.ท.อภินันทน์ กล่าว
          ส่วนผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่กำไรในปีนี้อาจจะลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น