บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) มั่นใจเกิน 50% ฮอนด้าวางใจให้ทำชิ้นส่วนอีโคคาร์ คาดต้นปี 51 ได้ความชัดเจน
พร้อมทั้งคาดว่าจะได้รับผลดีจากการลงทุนผลิตรถรุ่นใหม่ของค่ายฟอร์ด-มาสด้าด้วย ขณะเตรียมวางแผนเปิดเจรจาค่ายรถญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก หลังได้นิสสันเป็นลูกค้าใหม่รายล่าสุด และยังตั้งเป้ารุกขยายตลาดเข้าสู่ค่ายรถยนต์จากฝั่งสหรัฐ
ผู้บริหาร มองว่าในปี 51 บริษัทมีแนวโน้มเติบโตได้สูงกว่าปีนี้ที่น่าจะเติบโตราว 15% ตามเป้าหมายเดิม เนื่องจากการเมืองมีความชัดเจน และรัฐเริ่มลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ รวมทั้งลูกค้ายืนยันออร์เดอร์ New Part ซึ่งพร้อมจะเริ่มผลิตและขายให้ในปีหน้า
นายวีระยุทธ กีตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ SAT คาดว่า อย่างเร็วประมาณต้นปี 51 จะทราบความชัดเจนเรื่องออเดอร์ชิ้นส่วนรถยนต์อีโคคาร์ให้กับค่ายฮอนด้า ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้เกิน 50% แล้ว เนื่องจากปัจจุบันฮอนด้าเป็นลูกค้างานชิ้นส่วนหล่อและงานสปริงของบริษัทอยู่แล้ว
"เรากำลังติดต่อทางฮอนด้าอยู่ว่าจะทำรถรุ่นอะไร เพราะเขาประกาศแล้วว่าจะลงทุนทำอีโคคาร์ เรากำลังประสานงานอยู่เพื่อที่จะขอข้อมูล แต่ก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งจะรู้ผลเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับลูกค้า เพราะต้องใช้เวลาเลือกรุ่น และต้อง develop อะไรหรือเปล่า ข้อมูลตรงนี้เรายังไม่ได้ความคืบหน้ามากเท่าที่ควร แต่คาดว่าอย่างเร็วต้นปี 51 คงจะมีความชัดเจน และกว่าจะเริ่มผลิตจริงๆคงอีกนาน"นายวีระยุทธ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ส่วนกรณีที่มาสด้าและฟอร์ดจะประกาศแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดเล็กมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 17,500 ล้านบาทในไทยนั้น นายวีระยุทธ มองว่า บริษัทน่าจะได้รับผลดีจากที่ปัจจุบัน SAT มียอดขายจากกลุ่ม Auto Alliance Thailand Co.Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของค่ายรถยนต์ทั้งสองประมาณปีละไม่ถึง 100 ล้านบาท
"อาจจะมีส่งผลกับเราบ้าง วอลุ่มของมาสด้าและฟอร์ดปีนึงไม่เยอะ ไม่ถึงร้อยล้านบาท แต่เราก็คงมีเจรจาอยู่แล้ว"นายวีระยุทธ กล่าว
นายวีระยุทธ์ เชื่อว่า ในปี 51 บริษัทจะมีอัตราเติบโตของผลประกอบการสูงกว่าปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะเติบโต 15% จาก 4,389.25 ล้านบาทในปี 49 หลังจากมีการเลือกตั้งใหม่และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน ขณะที่การลงทุนในโครงการใหญ่ๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้น รวมทั้งขณะนี้บริษัทได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถรุ่นใหม่จากลูกค้าแล้ว โดยจะเริ่มทยอยผลิตเพื่อส่งให้ได้ในปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าจะยังมีอัตราการเติบโตที่ดีในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
"ปีนี้ที่เคยบอกว่าปีนี้เราจะ Growth ประมาณ 15% ก็ยังเป็นไปตามนั้นอยู่ ส่วนในอนาคตเรากำลังทำ Business Plan 3 ปีอยู่ แต่ปีหน้าน่าจะ Grwoth กว่าปีนี้อยู่แล้ว แต่ตัวเลขยังบอกไม่ได้ เพราะออเดอร์ New Part ใหม่ๆที่เราได้รับ Confirm จากลูกค้าแล้ว ซึ่งเราต้องใช้เวลาในทำตัวอย่างและเตรียมการผลิตคาดว่าจะเริ่มผลิตในปีหน้า และจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300 ล้านบาท" นายวีระยุทธ กล่าว
ปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่ของ SAT ยังเป็นค่ายรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดค่ายนิสสันก็ตกลงเป็นลูกค้าแล้ว นอกจากนี้กำลังเจรจากับค่ายรถใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก ส่วนใหญ่ยังเป็นค่ายรถญี่ปุ่น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเจรจากับค่ายอเมริกามากขึ้นจากปัจจุบันที่ยังมีออร์เดอร์น้อยมาก คาดว่าอีกประมาณ 3 ปีน่าจะได้เห็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นค่ายรถอเมริกามากขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--