ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากภาวะการซื้อขายที่ซบเซาในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่ลดลงอย่างหนัก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดรูดลง 32 จุด แตะระดับ 6,482 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,550.9-6,460.9 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.65 พันล้านหุ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ย.ร่วงลง 8% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจทรุดตัวลงอย่างหนักและถ่วงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงด้วย
ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนนั้น หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหนักสุดเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาโลหะ และจากการที่บริษัทคาซัคมิสซึ่งทำธุรกิจเหมืองทองแดงรายงานว่า ผลผลิตทองแดงบริสุทธิ์ลดงในไตรมาส 3 และคาดว่าปัญหาด้านการผลิตอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตปี 2550
ทั้งนี้ หุ้นคาซัคมิสดิ่งลงกว่า 7% ขณะที่หุ้นลอนมินร่วงลง 4.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตันร่วงลง 3.6% และหุ้นเวแดนตาร่วงลงกว่า 4%
ส่วนหุ้นบริษัทแกล็คโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 1,248 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรหลังหักภาษีช่วงไตรมาส 3 ลดลงสู่ระดับ 1.8 พันล้านปอนด์ จากไตรมาส 2 ที่ระดับ 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายยา Avandia ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวาน ปรับตัวลดลง
ขณะที่หุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาชื่อดังอีกรายนั้น ดิ่งลง 49 เพนซ์ ปิดที่ 2,408 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'sell' จากเดิมที่ระดับ 'neutral'
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--