ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคบริการที่ซบเซา นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 79.26 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 13,968.05 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 7.04 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 1,539.59 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 17.68 จุดหรือ 0.64% ปิดที่ 2,729.43 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.25 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 7 ต่อ 4 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.90 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับอิทธิพลจากรายงานของสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐที่ระบุว่า ธุรกิจภาคบริการในเดือนก.ย.ขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าในเดือนส.ค. โดยดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคบริการร่วงลงแตะระดับ 54.8 จุดในเดือนก.ย. จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 55.8 จุด
แม้นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ แต่ก็มีนักลงทุนอีกจำนวนหนึ่งวิตกกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงและอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะฟื้นตัว
ขณะที่สมาคมธนาคารปล่อยกู้จำนองของสหรัฐรายงานว่า ยอดการยื่นขอกู้จำนองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ย.ปรับตัวลดลง 2.7%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นเลนนาร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 4.5% หุ้นพัลท์ โฮมส์ ดีดขึ้น 3% ส่วนหุ้นบริษัทผลิตชิปร่วงลงอันเนื่องมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 8.9% และหุ้นอินเทล คอร์ป รูดลง 2.2%
ส่วนหุ้นไอบีเอ็มร่วงลงหลังคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เปิดเผยว่า คณะกรรมการอีซีเริ่มดำเนินการสอบสวนกรณีที่ไอบีเอ็มเตรียมซื้อธุรกิจของบริษัทเทเลโลจิก เอบีซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของสวีเดน
ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1% หลังราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลง 11 เซนต์ แตะระดับ 79.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--