ตลท.มีแผนดันสัดส่วนนักลงทุนสถาบันเพิ่มเป็น 20% ลดรายย่อยเหลือ 50%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 29, 2007 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนขยายสัดส่วนนักลงทุนสถาบันที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้มากขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันที่ 13% และต้องการให้มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยมาอยู่ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% และที่เหลือประมาณ 30% จะเป็นนักลงทุนต่างชาติ จากขณะนี้สัดส่วนประมาณ 35-40% 
"เราอยากเห็นนักลงทุนสถาบันมีบทบาทในตลาดหุ้นมากขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะนักลงทุนสถาบันมีการลงทุนแบบมืออาชีพ และต้องยอมรับว่านักลงทุนสถาบันในตลาดหุ้นมีน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน และถ้ามีนักลงทุนประเภทดังกล่าวจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพ"นายปกรณ์ กล่าว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวทางในการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดในการพิจารณาการลงทุนและสินค้าที่นักลงทุนสถาบันต้องการเข้าลงทุน โดยคณะกรรมการฯดังกล่าวนายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาคณะกรรมการกองทุนบำเหน็ญบำนาญข้าราชการ(กบข.)เป็นประธานคณะกรรมการฯชุดนี้ รวมทั้งยังมีตัวแทนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) และนักลงทุนต่างชาติ
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญกับนักลงทุนรายย่อย จะเห็นได้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ พยายามหาสินค้าและบริษัทจดทะเบียนที่ดีเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากขึ้น รวมถึงการแก้ไขกฎเกณฑ์บริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่น่าสนใจ
ที่ผ่านมาได้พบปะกับบริษัท 2-3 แห่ง ซึ่งมีความสนใจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงกรรมการตลาดหลักทรัพย์ในส่วนที่เป็นคณะกรรมการสรรหาบจ.ก็ได้มีการเชิญชวนบริษัทต่างๆที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงทำให้แนวโน้มจำนวนบริษัทที่จะเข้าระดมทุนในปีหน้าจะมีไม่น้อยกว่า 30 บริษัท
และเร็วๆนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมกับ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะพบปะกับบริษัทนอกตลาดที่มีศักยภาพดี ซึ่งจะใช้โอกาสเชิญชวนเข้ามาจดทะเบียนในตลาด
ทั้งนี้จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เดินทางไปให้ความรู้กับนักลงทุนที่จ.ขอนแก่น นายปกรณ์ กล่าวว่า นักลงทุนให้ตอบรับที่ดี โดยจ.ขอนแก่น ถือเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดย ณ ส.ค. 50 มียอดเงินฝากสูงเป็นอันดับ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ 2,523 ล้านบาท/เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ