นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down หลังจากที่รัฐบาลได้ยกระดับการล็อกดาวน์หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทะลุหมื่นรายต่อวัน และวันนี้ยังทำจุดสูงสุดใหม่ โดยการยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดมีทั้งการจำกัดกิจกรรมและเพิ่มพื้นที่ควบคุมด้วย
นอกจากนี้ ตลาดฯก็คงจะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันฟิวเจอร์สปรับลงเช้านี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.64 ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ย 0.5-0.6%
สัปดาห์นี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ก.ค.นี้ รวมถึงตัวเลขการค้าของไทยวันที่ 21 ก.ค. อีกทั้งติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการ ของสหรัฐฯ และยุโรปที่จะทยอยออกมาในวันที่ 23 ก.ค.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,687.85 จุด ลดลง 299.17 จุด (-0.86%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,327.16 จุด ลดลง 32.87 จุด (-0.75%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,427.24 จุด ลดลง 115.90 จุด (-0.80%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.81 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 339.68 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 218.14 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.ค.) 1,574.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด (+0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,125.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ก.ค.) ปิด 71.81 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.22%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.ค.) อยู่ที่ 2.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.82/86 แนวโน้มอ่อนค่า ให้กรอบวันนี้ 32.70-32.95 หลังตัวเลขติดเชื้อโควิดเพิ่มต่อเนื่อง
- สธ.วิ่งวุ่นจัดหา "วัคซีน" ต้านโควิด หลังยอดติดเชื้อรายวันทะลุหมื่นราย "อนุทิน" สั่งกรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีน เร่งเจรจาแอสตร้าฯ เพิ่มส่งมอบเดือนละ 10 ล้านโดส พร้อมชง ศบค.จำกัดส่งออก เผยสั่งซื้อไฟเซอร์เพิ่มอีก 50 ล้านโดส ด้านคร.ยอมรับส่งมอบแอสตร้า สะดุดมาต่ำเป้า "ประยุทธ์" ประกาศยกระดับล็อกดาวน์มีผล 20 ก.ค.นี้ ปรับเพิ่มจังหวัด พื้นที่สีแดงเข้มเป็น 13 จังหวัด
- นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับว่า มาตรการในขณะนี้เป็นแค่การชะลอไม่ให้ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น การที่ต้องเพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้น เพราะจากการคาดการณ์อีก 2 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่ลดลง แต่หากร่วมมือกันสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อ 2 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คงต้องเพิ่มมาตรการสูงสุด คือ ทุกคนอยู่บ้านไม่ต้องทำอะไร ล็อกดาวน์เมืองเหมือนกับอู่ฮั่นโมเดลของจีน คืออยู่บ้านแล้วมีคนส่งข้าวส่งน้ำให้กิน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามดูตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะผู้สูงอายุว่าเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกินกว่าระบบสาธารณสุขรองรับได้หรือไม่ แต่ไม่ได้ใช้ทั้งประเทศ ใช้เฉพาะพื้นที่สำคัญที่ยังมีแพร่ระบาดสูงอยู่ แต่ไม่อยากให้ถึงตรงนั้น
- ผู้ว่าการ ธปท.ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ ก.ค.63-มิ.ย.64 ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน โดยอยู่ที่ 0.18% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ต้องอยู่ 1-3% เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่กลางปี 63 และที่ผ่านมายังได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับต่ำตามความต้องการใช้ลดลงจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการลดค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซหุงต้มของภาครัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 64
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังรวบรวมและสรุปข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆ ผลจากมาตรการรัฐ เพื่อประเมินและปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ใหม่ ซึ่งจะแถลงวันที่ 29 ก.ค.นี้ โดยแนวโน้มจีดีพีจะดีกว่า 0% แน่นอน ส่วนจะอยู่เท่าไรนั้นอยู่ในขั้นตอนการประเมิน อย่างไรก็ตามการประเมินครั้งล่าสุดมองไว้ที่ 2.3% เพราะคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 2 ล้านคน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 คาดนักท่องเที่ยวจะลดลงกว่าที่เคยมาก ขณะที่ภาคการส่งออกอยู่ในช่วงปรับตัวดีขึ้น ส่วนการประกาศล็อกดาวน์กะทันหันของรัฐบาลก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงทำให้การประมาณการจีดีพีครั้งนี้มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นด้วย
- หนี้ประเทศเดือน พ.ค.2564 พุ่งแตะ 8.69 ล้านล้านบาท คิดเป็น 55.42% ของจีดีพี ใกล้แตะขอบความยั่งยืนทางการคลังที่ 60% ของจีดีพี คลังจ่อถกขยายเพดานหนี้เพิ่มหลังแผนระดมกู้จ่ออื้อ
- กรมท่าอากาศยาน คลอดมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิดช่วยแอร์ไลน์ ลดค่าขึ้นลงสนามบินและค่าที่เก็บอากาศยาน 50% สนามบินภูธร 29 แห่งถึงสิ้นปีนี้ พร้อมลดค่าเช่าพื้นที่ให้ผู้ประกอบการร้านค้าในสนามบิน 50% ถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าเทคนิค 4.40-4.50 บาท แนวโน้มกำไร Q2/64 คาดทำ New High ตามกลุ่มฯจากอานิสงส์ของโควิดระลอก 3 หนุนรายได้ตรวจเชื้อและรักษาพุ่งขึ้น ขณะที่รายได้ประกันสังคมยังเป็นฐาน Cash Cow แข็งแรง ล่าสุดมี Capacity รักษากว่า 2,800 เตียง (Hospital 300+ เตียงและ Hospitel 2,500+ เตียง คาดกำไร Q3/64 ยังเร่งขึ้นทำ New High ต่อเนื่องและทำให้ประมาณการกำไรปี 64 ที่คาด +26% Y-Y มี Upside อย่างมาก และอยู่ระหว่างปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 4 บาท
- CHG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 4.50 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/64 จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 425 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 69%qoq และ 175%yoy จากรายได้การตรวจคัดกรองเชื้อโควิดและมีรายได้จากการให้บริการ Hopitel เพิ่มขึ้น
- SFLEX (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 6.00 บาท คาดบรรจุภัณฑ์ทั้งกลุ่ม Food และ Non-Food ยังโตต่อเนื่องและเริ่มมี Order บรรจุภัณฑ์ทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งหนุนรายได้ ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต +10%YoY, Organic Growth มาจากการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่และคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้น ส่วน Inorganic Growth ลุ้นดีล M&A ในช่วง H2/64 ด้าน Bloomberg Consensus ประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 192 ลบ. และ 245 ลบ. +35%YoY, +27%YoY ตามลำดับ