นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้พิจารณาตกลงให้ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) ซึ่งถือหุ้นโดย บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) บริษัทย่อยของ GUNKUL ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง สถานีไฟฟ้าท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 3 แผนที่ 1 และโครงการงานจ้างก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่ กฟก.1 (จังหวัดนครนายก,จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดอ่างทอง)
นอกจากนี้ยังมีโครงการงานก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่ กฟฉ.2 (จังหวัดกาฬสินธุ์,จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดอำนาจเจริญ) รวม 3 สัญญามูลค่าทั้งสิ้น 447,874,000 บาท ซึ่งการรับงานในครั้งนี้ ช่วยสนับสนุนงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ในมือ (Backlog) พุ่งแตะ 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/64 ของกลุ่มบริษัท คาดว่าจะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้จำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วกว่า 650 เมกะวัตต์ และเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3-4/64 โดยในครึ่งปีหลังบริษัท เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกกว่า 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานเพิ่มอีก 15-20% ส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ตำกว่า 20%
สำหรับความคืบหน้าในการลงทุนในธุรกิจกัญชง-กัญชา บริษัทได้ตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,900 ล้านบาท แบ่งลงทุนปี 64-66 เป็นงบลงทุนโรงเรือน 1,500 ล้านบาท,ลงทุนโรงสกัด 300 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 100 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตในการปลูกกัญชา-กัญชงกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าภายในเดือน ก.ค. นี้จะทราบผลการอนุมัติ
ส่วนโรงงานสกัดสารกัญชา-กัญชง (CBD) คาดว่าจะดำเนินการลงทุนในไตรมาส 1/65 โดยกำลังการผลิตช่วงแรกจะอยู่ที่ 100 กิโลกรัมต่อวัน และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,100 กิโลกรัมต่อวันในครึ่งหลังปี 65 ซึ่งในปี 65 บริษัท จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาทต่อปี และปี 66 รับรู้รายได้เต็มปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์มโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในต่างประเทศจะเน้นลงทุนในเวียดนาม โดยได้มีการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงงานลมรวม 400-500 เมกะวัตต์ และในประเทศไทยได้ศึกษาโครงการโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวม 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปี 64 มีกำลังการผลิตเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 100-150 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าที่ COD ทั้งหมดในปี 66 ที่ 1,000 เมกะวัตต์