นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างงานภาครัฐจากกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ประมาณ 483 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 175 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสได้รับงานจากกลุ่มค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง โดยมีงานที่รอเซ็นสัญญามูลค่ารวม 34 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน
ปัจจุบันบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่อง แบ่งเป็นงานภาครัฐ อาทิ โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 งานศูนย์ราชการแห่งใหม่ โครงการจากกรมโยธาธิการ งานภาคเอกชน อาทิ โครงการ Block H Emsphere Holiday Inn Express Samui Bophut & Holiday Inn Resort Samui และโครงการค้าปลีก
ทั้งนี้ จากมาตรการการปิดไซต์งานก่อสร้าง บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเล็กน้อย และเป็นผลระยะสั้น เนื่องจากโครงการก่อสร้างที่บริษัทควบคุมงาน หากหยุดก่อสร้างในทันทีหรือการดำเนินการล่าช้า อาจก่อให้เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้างด้านวิศวกรรมจนยากต่อการแก้ไข หรือเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาหรือชุมชนโดยรอบ
"บริษัทมุ่งเน้นที่จะลดค่าใช้จ่าย ควบคุมต้นทุนจากการดำเนินงาน และสามารถรับรู้รายได้จากงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโต ซึ่งบริษัทคาดว่าผลประการการในปี 64 นี้ จะมีความสามารถทำกำไรดีขึ้นและฐานะการเงินของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงมีกระแสเงินสดเพียงพอในการดำเนินงาน" นายพงศ์ธร กล่าว
สำหรับโครงการยามู จ.ภูเก็ต แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 แต่โครงการวิลล่ารวมถึงที่ดินยังได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทั้งต่างชาติและคนไทย เนื่องจากภูเก็ตยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นของประเทศไทย อีกทั้งพื้นที่ของโครงการเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการของนักลงทุนสูง บริษัทจึงมีโอกาสรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการก่อสร้างบ้าน และการขายที่ดินอย่างต่อเนี่อง