นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. กฤษดามหานคร (KMC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่าภายในสิ้นเดือนต.ค นี้จะได้รับข้อสรุปเบื้องต้นจากกลุ่มทุนต่างประเทศ 2 ราย หลังจากที่กลุ่ม SOPHAST เลื่อนระยะเวลาในการชำระหุ้นเพิ่มทุน 1.5 พันล้านบาทออกไป ซึ่งหากสนใจก็จะมีการเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมกัน(MOU) กับกลุ่มทุนดังกล่าว
"บริษัทอยากให้ดีลดังกล่าวเจรจาให้จบภายในปีนี้เพื่อจะได้เพิ่มทุนในปีหน้า"นายวิรัตน์ กล่าว
สำหรับกลุ่มทุนต่างประเทศ 2 รายดังกล่าว รายหนึ่งเป็นสิงคโปร์ ส่วนอีกรายไม่ขอเปิดเผย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งรายละเอียดข้อมูล ทั้งงบการเงิน สินทรัพย์ รายชื่อเจ้าหนี้ รวมถึงแผนการใช้เงินเพิ่มทุนให้พิจารณาแล้ว ซึ่งผลเจรจาอาจเป็นไปได้ที่จะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาก่อนแล้วค่อยปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ ซึ่งต่างกับ SOPHAST ที่มีเงื่อนไขที่จะปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่ม SOPHAST ขอเลื่อนเวลาการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนออกไปและอาจมีความไม่แน่นอนในการเข้ามาเป็นพันธมิตรนั้น ไม่ได้กระทบความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัท เพียงแต่เงินที่จะนำมาลงทุนในการขยายงานล่าช้าออกไปเท่านั้น
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทปรับแผนขยายงานที่กฤษดาดอย เชียงใหม่ตามสภาพคล่อง ด้วยการทยอยทำเป็นเฟส จากเดิมที่จะลงทุนทั้งโครงการ ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่า 300 ล้านบาท ที่ผ่านมาได้มีการทยอยทำบ้างส่วนไปแล้ว
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม เดอะคริส รัชดาภิเษก อาคาร 2 อีกประมาณ 350 ล้านบาท อยู่ระหว่างการรอโอน รวมทั้งกำลังเปิดขายโครงการเดอะคริส อาคาร 3 มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท และจะดำเนินการก่อสร้างพร้อมกันทั้งสองอาคาร
นายวิรัตน์ กล่าวถึงผลดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 ว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ขาดทุน โดยในไตรมาส 3/50 และไตรมาส 4/50 เริ่มมีสัญญานที่ดีขึ้นจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่กลับมาจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่กระทบต่อการลงทุนและการซื้อบ้าน
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นแต่ยอดขายที่ตั้งเป้าที่ 1.6 พันล้านบาทก็เป็นเรื่องที่ลำบากแต่บริษัทจะพยายาม
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--