ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก และจากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มบริษัทน้ำมัน อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 รูดลง 5.8 จุด ปิดที่ 6,500.4 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 6,489.6-6,567.0 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.8 พันล้านหุ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปิดร่วงลง โดยหุ้นลอนมินดิ่งลง 205 เพนซ์ ปิดที่ 3,499 เพนซ์ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 80 เพนซ์ ปิดที่ 1,735 เพนซ์ หุ้นเวดันตา รีซอสเซส ลดลง 65 เพนซ์ ปิดที่ 2,062 เพนซ์ และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 80 เพนซ์ ปิดที่ 3,280 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านของอังกฤษพุ่งขึ้น โดยหุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ ดีดตัวขึ้น 4.7% หุ้นเพอร์ซิมมอนพุ่งขึ้น 5.9% และหุ้นบาร์รัทท์ ดีเวลอปเมนท์ส ปรับตัวขึ้น 4.2% ในขณะที่เทรดเดอร์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มก่อสร้างได้รับปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อชดเชยก่อนที่ธนาคารกลางอังกฤษจะประกาศผลการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี
หุ้นนอร์ทเธิร์น ร็อค ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้จำนองปิดบวกขึ้น 2.65% ปิดที่ 122.92 เพนซ์ จากกระแสข่าวที่ว่าจะมีการใช้นโยบายฟื้นฟูกิจการนอร์ทเธิร์น ร็อค และข่าวที่ว่าบริษัทที่ต้องการซื้อนอร์ทเธิร์น ร็อค อาทิ บริษัทเจซี ฟลาวเวอร์ส และบริษัทเซอร์เบรุส จะเข้าเจรจาร่วมกับเจ้าหน้าที่ของนอร์ทเธิร์น ร็อคในวันอังคารหน้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--