นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า ช่อง 8 ได้จับมือกับพันธมิตร OTT ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น WeTV และ AIS PLAY เพื่อส่งมอบซีรีส์ละครดังทั้ง Finished Program หรือละครที่กำลังฉายอยู่ ซึ่งสามารถรับชมได้ทันทีหลังจากละครฉายจบทางหน้าจอ รวมแล้วกว่า 20 เรื่อง และภาพยนตร์ดังในอดีตตั้งแต่ยุค 90 และออริจินัล คอนเทนต์อีกกว่า 50 เรื่อง ไปฉายบนแพลตฟอร์มดังกล่าว สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้ทั้งทีวีมีเรตติ้งสูงขึ้น และตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ได้รับความสนใจและเติบโตต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์ On air และ on demand เพราะผู้ชมสามารถเพลิดเพลินกับบริการสตรีมมิ่งไม่ว่าเมื่อใดหรือที่ไหนก็ได้โดยไม่จำกัด
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และเพิ่มเรตติ้งให้กับช่อง 8 บริษัทฯ จึงเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งทางหน้าจอทีวี และผู้ชมผ่านวิดีโอสตรีมมิ่ง สำหรับทีวีเน้นที่การจัดสรรคอนเทนต์ที่หลากหลายให้เหมาะในแต่ละช่วงเวลาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมได้อย่างแม่นยำ ส่วนทาง OTT จะมีออริจินัลคอนเทนต์ที่เป็นซีรีส์หลากหลายแนว อาทิ ซีรีส์วาย ซีรีส์โรแมนติกคอมมาดี้ และซีรีส์พีเรียด
อย่างไรก็ตาม ช่อง 8 เน้นว่าจะต้องฉายได้ทั้งบนหน้าจอทีวีและในวิดีโอสตรีมมิ่ง ทั้งหมดนี้เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ของช่อง 8 ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ล่าสุด ช่อง 8 ได้นำละครท็อปฮิตลงในแพลตฟอร์มของ WeTV เช่น เรือนร่มงิ้ว ขุมทรัพย์ลำโขง เรยา และอื่นๆ อีกมากมายรวมแล้วกว่า 10 เรื่อง พร้อมสานต่อความร่วมมือกับ WeTV ปลุกกระแสซีรีส์จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยนำซีรีส์จีนพากย์ไทยเรื่องดัง สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย ที่มียอดการรับชมสูงสุดบนแอปพลิเคชัน WeTV ประเทศไทยในปี 63 และยังเป็นซีรีส์ที่มียอดการรับชมมากกว่า 8 พันล้านวิวในประเทศจีน มาฉายโดยเริ่มตอนแรกในเดือนส.ค.นี้ ตามด้วยซีรีส์จีนเรื่องอื่นๆ อีกมากมายรวม 10 เรื่อง อาทิ ข้านี่แหละองค์หญิงสาม และ ลิขิตจันทรา เป็นต้น เพื่อดึงผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ และขยายฐานไปสู่ผู้ชมที่ชื่นชอบคอนเทนต์จีนให้เข้ามารับชมบนหน้าจอให้มากขึ้น
บริษัทฯ ยังเตรียมจัดแคมเปญพิเศษให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรางวัล และสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมายผ่านทาง WeTV และช่อง 8 โดยคาดว่าการนำซีรีส์จีนมาฉายบนหน้าจอช่อง 8 ในครั้งนี้ จะมียอดผู้ชมเพิ่มขึ้น 15%
นอกจากนี้ ทางช่องยังพูดคุยกับพันธมิตรอย่าง AIS PLAY เตรียมผลิตออริจินัลซีรีส์ เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ เพื่อเตรียมออกอากาศบนแพลตฟอร์ม AIS PLAY และทางหน้าจอช่อง 8 อีกด้วย โดยการร่วมมือกับพันธมิตร OTT ชั้นนำต่างๆ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุยทธ์ "เก้าอี้สี่ขา" ซึ่งทำรายได้เพิ่มขึ้นให้กับช่อง 8 มากถึง 37% ในไตรมาสที่ผ่านมา
"ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในช่วงที่ผ่านมาแม้จะหดตัว จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ทำให้ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 สามารถเกาะกลุ่มผู้นำทีวีดิจิทัลได้ ด้วยจุดยืนและจุดแข็งที่ชัดเจน ทั้งข่าว ละคร วาไรตี้ และมวย ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ "เก้าอี้สี่ขา" ในการบริหารความเสี่ยง ที่สร้างรายได้แบบค้ำยันซึ่งกันและกัน ด้วยการวางเป้าหมายสร้างรายได้ช่อง 8 ให้แข็งแรงจากศักยภาพภายในอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพารายได้ช่องทางใดมากเกินไป และมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างจริงจัง เพื่อสร้างการเติบโตตามที่ตั้งไว้" นายสุรชัย กล่าว