นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการทยอยส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล โดยเฉพาะเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องมอนิเตอร์สัญญาณชีพผู้ป่วย (Patient Monitor) เครื่อง Oxygen High Flow เครื่องตรวจสมรรถภาพปอดแบบ Portable ฯลฯ มีมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท
"การที่บริษัทฯ ประกาศการเดินหน้ารุกเครื่องมือทางการแพทย์ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์มากขึ้น ทำให้มีออเดอร์เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันบริษัทฯเร่งในการนำผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ในรูปแบบต่างๆ เข้ามาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้ามาจำหน่ายเอง หรือร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้ในอนาคต"นายปรีชา กล่าว
ขณะที่ล่าสุด บริษัทฯ ได้เป็นผู้นำเข้า Oxygen High Flow มาจำหน่ายและอยู่ระหว่างการสั่งซื้อชุดตรวจโควิดแบบเร่งด่วน (Rapid Test) ของแบรนด์ดังระดับโลกเพื่อมาจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลและร้านขายยา คาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายได้ภายในเดือนส.ค.นี้ รวมทั้งยังเดินหน้าเข้าประมูลงานโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนในหลายโครงการ สนับสนุนให้ปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นได้จากปัจจุบันอยู่ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา รับทราบการขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ WCIH ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยบริษัทถือหุ้นอยู่จำนวน 101,849,993 หุ้น คิดเป็น 56% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง รวมเป็นเงินจำนวน 1,018,499.93 บาท ซึ่งภายหลังจากการขายหุ้น WCIH เรียบร้อยแล้ว จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้น ลดภาระผลขาดทุนและสำรองต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต สร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า มุ่งเน้นธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และเป็นธุรกิจที่บริษัทฯมีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ สอดคล้องกับความจำเป็นและความต้องการสูงมากในขณะนี้