โบรเกอร์ฯต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) จากแนวโน้มผลงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะทำ ได้สูงกว่าครึ่งปีแรก และผลงานในช่วงไตรมาส 3/64 มีโอกาสทำสถิติสูงสุด (New High) ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/64 รับอานิสงส์การ แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทะลุหมื่นรายต่อวันในขณะนี้ ทำให้จำนวนผู้เข้ามาตรวจหาเชื้อ และการรักษาโรคโควิด-19 ในช่วงเดือนก.ค.นี้ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 2/64
โดยที่ BCH เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีการปรับโมเดลธุรกิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งได้มีการให้บริการเกี่ยวกับโควิด- 19 ที่หลากหลายทั้งการตรวจหาเชื้อ การรักษา และการฉีดวัคซีน ทำให้ยังสามารถสร้างผลงานที่มีทิศทางการเติบโตอย่างโดดเด่น และใน ช่วงไตรมาส 4/64 จะยังมีรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกเข้ามาเสริม ซึ่งจะชดเชยรายได้จากตรวจหาเชื้อและการรักษาโรค โควิด-19 ที่ลดลงไป หากสถานการณ์แพร่ระบาดมีแนวโน้มลดลงก่อนไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
หุ้น BCH ปิดเช้าที่ 25.75 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.96%) ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าร่วง 24.82 จุด
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 33.00 ฟิลลิป ซื้อ 33.00 หยวนต้า ซื้อ 31.20 เคทีบีเอส ซื้อ 30.50 ทรีนีตี้ ซื้อ 30.30 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 29.00 ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 29.00 กสิกรไทย ซื้อ 27.50
นางสาวปิยะฉัตร รัตนสุวรรณ นักวิเคราะห์อาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า BCH ยังคงได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาด โควิด-19 ในประเทศที่ยังมีต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/64 เป็นต้นมามีการตรวจหาเชื้อและการ เข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งในเดือนก.ค.นี้ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อตั้งแต่ต้นเดือนมาเร่งตัวมากขึ้น จนปัจจุบันแตะหมื่นราย จะทำให้มี การตรวจและการรักษาเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 เท่าตัวจากไตรมาส 2/64
โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะสามารถเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ 960 ล้านบาท จากประมาณการรายได้ที่ประเมินไว้ทั้งปี 64 ที่ 1.93 พันล้านบาท และคาดว่ามีโอกาสที่ไตรมาส 3/64 จะยังสามารถทำ กำไร New high ได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/64 หากจำนวนการตรวจและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง
ด้านนายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยัง ไม่คลี่คลายเป็นปัจจัยหนุนต่อธุรกิจของ BCH ทั้งการให้บริการตรวจ การรักษา และฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นรายได้เสริมเข้าทำให้กับทางเครือโรง พยาบาล ซึ่งปัจจุบันจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ไนระดับสูง และทาง BCH มีจำนวนผู้ที่เข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในระดับสูงไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย/วัน ซึ่งยังเป็นระดับการตรวจที่ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/64 และยังมีจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และฮอสพิเทล อย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่หนุนผลงานของ BCH ในช่วงไตรมาส 3/64 ที่คาดว่าจะยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/64
ทั้งนี้ ตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงปีก่อน จะเห็นว่า BCH มีการปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ ดี รวมถึงมีการร่วมมือกับพันธมิตรโรงแรมต่าง ๆ ในการเปิดเป็นฮอสพิเทล ทำให้สามารถยังสร้างรายได้เข้ามาชดเชยรายได้จากการ รักษาปกติทั่วไปที่ชะลอตัวลงไป ทำให้ผลการดำเนินงานกลับมามีทิศทางเติบโตได้ ซึ่งทำให้กำไรในปีนี้คาดว่าจะโตสูงถึง 87% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก และอาจจะมีความเสี่ยงหากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ลง ทำให้อาจจะกระทบต่อราคาหุ้นได้
ส่วนนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า การแพร่ระบาดโค วิด-19 ในประเทศที่มาถึงระลอก 4 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้กับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโค วิด-19 อย่างครบถ้วน ซึ่ง BCH ถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีการปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้สามารถสร้างรายได้เข้ามา ให้กับบริษัทได้ โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อและการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีการตรวจหาเชื้อมากที่สุด และมีผู้ เข้ารับการรักษามากที่สุด และการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อแตะหลักหมื่นราย จะทำให้ BCH มีโอกาสสร้างผลงาน ได้สูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรกได้
โดยที่ยังประเมินกำไรของ BCH ในปีนี้เติบโตจากปีก่อนราว 70% และคาดว่าแนวโน้มของกำไรในช่วงไตรมาส 3/64 จะ ยังสามารถทำ New High ได้ต่อจากไตรมาส 2/64 เพราะจำนวผู้ติดเชื้อควิด-19 ในช่วงเดือนก.ค.64 เป็นต้นมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก ไตรมาส 2/64 และในช่วงไตรมาส 4/64 จะยังมีรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกเข้ามาเสริม ซึ่งอาจจะเข้ามาทดแทนรายได้ จากการให้บริการตรวจและรักษาโควิด-19 ที่ลดลงไป หากสถานการณ์การแพร่ระบาด ระลอก 4 คลี่คลายลงได้ก่อนเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุด ท้ายของปีนี้