PTT-PTTEP ทำนิวไฮ โบรกฯ คาดต่างชาติไล่เก็บมองราคาน้ำมันขึ้นต่อ

          ราคาหุ้น PTT และ PTTEP พุ่งแรงในช่วงบ่าย ทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาด ได้รับปัจจัยบวกเรื่องราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อไป หลังปริมาณสำรองน้ำม้นของสหรัฐฯลดต่ำกว่าคาด ประกอบกับไตรมาส 4 เป็นช่วงฤดูหนาวที่ใช้น้ำมันสูง และยังมีเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างตุรกีกับกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด ทั้งนี้ ราคาปิด PTT วันนี้ได้ทะลุราคาเป้าหมายของหลายโบรกเกอร์ 
          ราคาเมื่อปิดตลาด 
          PTT   ปิดที่ 394 บาท บวก 24 บาท(+6.49%)เป็นราคาสูงสุดของวันนี้และทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด
          PTTEP ปิดที่ 169 บาท บวก 12 บาท(+7.64%)โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 173 บาทและทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด 
          น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ราคาหุ้นทั้งบมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) พุ่งสูงคาดว่ามาจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหุ้นทั้งสองอยู่ในกลุ่มพลังงานที่มองว่าแนวโน้มในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้าราคาน้ำมันน่าจะขยับขึ้น และในไตรมาส 4 ที่เข้าฤดูหนาวมีการใช้น้ำมันมากขึ้น รวมทั้งปริมาณการสำรองน้ำมันของสหรัฐอเมริกาที่ลดลงไป และเรื่องความตึงเครียดระหว่างตุรกีกับกลุ่มกบฏแบ่งแบกดินแดนชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของอิรัก น่าจะผลักดันให้กลุ่มน้ำมันได้รับประโยชน์จากตรงนี้ชัดเจน 
          นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานก็ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังรอดูว่าจะฟื้นตัวหรือไม่ แต่ผลประกอบการจะอิงกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นราคาโภคภัณฑ์(commodity)ในตลาดโลก 
          "ถามว่า surprise ไหมก็ surprise ที่ราคา ปตท. วันนี้บวกขึ้นมาถึง 24 บาทเลย และ BANPU ก็ขึ้นมา 28 บาท ท้ายที่สุดถ้าราคาขึ้นไปชนราคาปัจจัยพื้นฐานแล้ว ก็คงต้องเป็นเทรดรายวัน ดูตามราคาน้ำมันเป็นรายวันไป แต่นักวิเคราะห์จะไม่มีการปรับราคาพื้นฐานแล้ว คงจะปรับราคาเป็นปีหน้าของปตท.
          ส่วนปตท.สผ.เราใช้ราคาพื้นฐานของปีหน้าอยู่แล้ว ก็จะยังไม่ปรับ นอกจากราคาน้ำมันสูงกว่าที่เราประเมินไว้ เราปรับตามปัจจัยพื้นฐานมากกว่า เราไม่ได้ไล่ราคาตลาด"น.ส.มยุรีกล่าว  
          ทั้งนี้ บล.นครหลวงไทย ได้คาดการณ์บนสมมติฐานว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 50 ที่ 69 เหรียญ/ตัน แต่ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 71 เหรียญ/ตัน โดย PTT ได้ปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมขึ้น 16% เป็น 395 บาท สำหรับปี 50 (เมื่อ 18 ต.ค.50)เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมของบริษัทลูก 6 บริษัทขึ้น 7%-39% ในช่วงที่ผ่านมา  
          ส่วน PTTEP ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 178 บาท สำหรับปี 51