นางจันทร์เพ็ญ หล่อวิมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ในเครือบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์การขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกภายใต้แนวคิด ORIGIN NEXT LEVEL ของออริจิ้น ส่งผลให้ทุกบริษัทในเครือมองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆที่สามารถต่อยอดจากประสบการณ์ องค์ความรู้ และพื้นฐานในธุรกิจดั้งเดิม เพื่อก้าวไปข้างหน้าแบบ Next Level สำหรับพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ในฐานะบริษัทในเครือที่มุ่งมั่นให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร จึงได้จัดตั้งบริษัท พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัย รองรับการเติบโตของตลาด พร้อมทั้งเติมเต็มอีกมิติหนึ่งของอีโคซิสเท็มในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค
บริษัทจะเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย นำเสนอประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยคอนโดมิเนียม ประกันภัยบ้าน ก่อนเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สามารถต่อยอดจากพื้นฐานเดิมของทั้งเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และเครือพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ได้ทันที ล่าสุด บริษัทได้รับแต่งตั้งเป็นนายหน้านิติบุคคลที่มีใบอนุญาต ประเภทนายหน้าประกันวินาศภัยโดยตรง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มดำเนินธุรกิจทันทีในไตรมาส 3/64 เจาะทั้งตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มลูกค้ารายย่อย
"จากประสบการณ์ส่วนตัวในแวดวงธุรกิจการเงิน-ประกันภัยกว่า 30 ปี เราเห็นเลยว่ามุมมองต่อธุรกิจประกันภัยของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก ในอดีตคนมองว่าการทำประกันเป็นเรื่องไม่จำเป็น มีบุคคลที่ทำประกันภัยอยู่จริงๆ ไม่ถึง 50% แต่วันนี้มี 2 ปัจจัยที่เร่งให้คนตื่นตัวกับการทำประกันภัย ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นปี 63 และการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการวางแผนการเงิน เราเชื่อว่าความตื่นตัวดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ"นางจันทร์เพ็ญ กล่าว
นอกจากธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยแล้ว บริษัทยังวางโรดแมปในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 65 บริษัทตั้งเป้าจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และจะเป็นอีกก้าวหนึ่งของเครือออริจิ้นที่จะขยายตลาดสู่ธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (Beyond Property Business)
ทั้งนี้ บริษัทยังตั้งเป้าการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าจะสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องจนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 3 ปี