นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน คาดว่า สิ้นปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)น่าจะอยู่ที่ระดับ 920 จุดได้ และสำหรับปี 51 ดัชนีจะขึ้นมาอยู่ที่ 1,091 จุด เนื่องจากค่าพีอีตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า ขณะที่พีอีของประเทศอื่นๆในภูมิภาคปรับตัวขึ้นไปที่ 15 เท่าแล้ว
สำหรับหุ้นกลุ่มที่จะเป็นตัวผลักดันตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์และพลังงานเป็นหลัก เนื่องจาก 2 กลุ่มนี้มีขนาดมาร์เก็ตแคปสูงถึง 50% ของตลาดรวม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปี ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องจากมีกองทุนประเภท Hedge Fund เข้ามาเก็งกำไรอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนและคำนึงถึงช่วงเวลาในการเข้าลงทุนเป็นสำคัญ
นายถนอมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในปี 51 ประเมินว่าบริษัทจดทะเบียนน่าจะมีอัตรากำไรเติบโตถึง 20.7% ถือว่าสูงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่บริษัทจดทะเบียนมีกำไรแค่ 3-5%
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงต้นปีหน้า(ม.ค.)น่าจะเห็นดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ 1,000 จุด จากสถานการณ์ January Effect
ขณะที่ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้จะยังคงมีเม็ดเงินต่างชาติเข้ามา แต่อาจไม่มากตามคาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม และตลาดหุ้นจีนที่อาจทำให้มีการปรับฐานอย่างรุนแรง มองเป้าหมายดัชนีเดือนพ.ย. 50 น่าจะอยู่ที่ 900-930 จุด
สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนยังเป็น กลุ่มธนาคาร อาทิ SCB KBANK BBL, ขนส่ง คือ TTA, พลังงาน ได้แก่ PTT PTTEP BANPU, นิคมอุตสาหกรรม คือ ROJANA, บันเทิง ได้แก่ MAJOR MCOT
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--