*กลุ่มโรงแรม, สายการบิน
-นสพ.รายงาน พิษโควิดระบาด "พิพัฒน์" สั่งเบรก "เที่ยวข้ามเกาะ" ทั้งหมด ด้านผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ขอ ททท.ระงับเที่ยวข้ามเกาะจาก "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มาเกาะสมุยในรูปแบบ "7 วัน + 7 วัน" จับตายอดผู้ติดเชื้อ หากสองวันนี้เพิ่มเป็น 2 เท่าของปัจจุบันจะชะลอ "สมุย พลัส โมเดล" ด้าน "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" กัดฟันเดินหน้าต่อ
*TIPCO
-นสพ.รายงาน บุกหนักเทรนด์สุขภาพ รุกสมุนไพร ชู "ฟ้าทะลายโจร แคปซูล" คุณภาพตรงมาตรฐานสุดฮอต ผลิตไม่ทัน เล็งเปิดตัวสารสกัดขมิ้นชัน-มะขามป้อม ครึ่งหลัง พร้อมรุกกัญชง-กัญชาและกระท่อม ขณะที่ยอดขายน้ำดื่มออร่าพุ่ง แห่ตุนน้ำดื่ม แผนชัดอาหารอนาคต เล็งเปิดตัวผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช เจาะลึกพื้นฐานพี/อีสุดถูกแค่ 5 เท่า ยิลด์ปันผลปีที่ผ่านมาสูง 10%
*CPW
-นสพ.รายงาน จ่อทุ่มงบไม่เกิน 1 พันล้านบาท ซื้อกิจการร้านมือถือจาก IBIZ Plus ต่อยอดธุรกิจไอที คาดดีลจบช่วงตุลาคมนี้ดันยอดสาขาพุ่งเกินเท่าตัว แถมขยายแบรนด์ใหม่รับทรัพย์ พร้อมลั่นปี 2564 รายได้โตทะลุเป้า 20% จากปีก่อน รับฐานธุรกิจใหม่หนุน
*GPSC, RATCH, GULF, BGRIM
-นสพ.รายงาน กลุ่มโรงไฟฟ้าประเด็นกดดันหลังอินโดนีเซียเดินหน้าเก็บภาษีคาร์บอนกระทบ RATCH ที่ลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซีย เต็มๆ ด้าน GPSC ชี้ไทยยังไม่เก็บเร็วๆ นี้ แต่ถึงเก็บก็ไม่กระทบเหตุรุกพลังงานทดแทน
*MEGA
-นสพ.รายงาน รุกสินค้าสมุนไพร ศึกษาสารสกัดฟ้าทะลายโจร มองเทรนด์รักสุขภาพยังมาแรง ส่วนสินค้ากัญชงแบบเม็ด-เครื่องดื่ม คาดออกสู่ตลาดช่วงไตรมาส 1/2565 ย้ำภาพรวมปีนี้ยังเชื่อรายได้โต 6-10% พร้อมคงแผน 5-7 ปี เพิ่มยอดขายและกำไรเป็นเท่าตัว
*ALT
-นสพ.รายงาน ส่งมอบงาน Smart Meter ของกฟภ.เฟสแรกโครงการนำร่องตามแผน 1.1 แสนครัวเรือน มูลค่า 715 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลเฟสใหม่ต่อเนื่อง คาดตามหัวเมืองใหญ่ ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท เผยโอกาสเติบโตสูงหนุนด้วยนโยบายของรัฐบาลสู่การเป็น ASEAN Digital Hub
*SEAFCO
-นสพ.รายงาน ประเมินทิศทางช่วงที่เหลือของปี 64 ยังมีงานต่อเนื่อง ใส่เกียร์ประมูลงานเพิ่ม หลังจากที่ยื่นไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท คาดได้งาน 30% ตุน Backlog ปัจจุบันราว 1,600 ล้านบาท ฟากโบรกจับตาเดือน ส.ค. 64 ประกาศผู้ชนะรถไฟทางคู่อย่างเป็นทางการ เพิ่มความคึกคักให้กลุ่มรับเหมา
*PF
-นสพ.รายงาน ปรับกลยุทธ์รุกทำตลาดบ้านพร้อมโอน หลังรัฐปิดไซต์ก่อสร้าง หวังปั๊มรายได้เพิ่ม แถมเดินหน้า 5 โครงการใหม่มูลรวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท เติม Backlog เพิ่มจากเดิมกว่า 2 พันล้านบาท กินยาวถึงปี 65 ส่วนปี 64 ย้ำผลงานเทิร์นอะราวด์ รองรับดีมานด์-ดีลขายสินทรัพย์หนุน
*GULF, INTUCH
-นสพ.รายงาน ผงาดเบียด "สิงเทล" ถือหุ้นอันดับหนึ่ง INTUCH หลังเทนเดอร์ฯ 20 วันรวบหุ้นได้เพิ่ม 9.92% ดันสัดส่วนถือหุ้นเกือบ 30% พร้อมเดินหน้าเทนเดอร์ฯ ต่อเนื่องไปจนถึง 4 ส.ค. 64 ส่งผล "อินทัช" กลับคืนสู่บริษัทของคนไทยอีกครั้ง วงการวาณิชธนกิจเชื่อ "กัลฟ์" มีโอกาสถือหุ้นเกิน 30% ส่งผลแผนการลงทุนคล่องตัว โดยเฉพาะ "ธุรกิจดาวเทียม" ไม่ติดกับดักบริษัทต่างชาติ นักวิเคราะห์ย้ำขาย INTUCH แล้วกลับมาซื้อ GULF คุ้มค่าการลงทุน
*ILINK
-นสพ.รายงาน ชนะประมูลเซ็นสัญญากับกฟภ. รับงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 3 สถานี ในนาม "กลุ่ม INTERLINK and AIT CONSORTIUM" มูลค่า 531.70 ล้านบาท รับผิดชอบ 2 สถานี มูลค่า 366.03 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่งกว่า 1,300 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปี 64 เข้าเป้า 6,000 ล้านบาท
*WINMED
-นสพ.รายงาน ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดตรวจ Biocredit Covid-19 Antigen ชุดตรวจคัดกรองแบบเร่งด่วน กระแสตอบรับดี มีคำสั่งซื้อจากสถานพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมเตรียมออกสินค้าใหม่ "ชุดตรวจคัดกรอง-ระบบตรวจโควิด-19" เพิ่มในช่วงปลายไตรมาส 3/64 หวังดันธุรกิจโต
*MINT, ZEN, M, CENTEL, AU
-นสพ.รายงาน สมาคมภัตตาคารไทย รับผลกระทบมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 5 จังหวัด ที่ได้สั่งห้ามไม่ให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้าน รวมถึงสั่งปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ทำให้นับตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยอดขายอาหารหายไปกว่า 90% เนื่องจากตามปกติแล้วยอดขายอาหารส่วนใหญ่จะมาจากการนั่งทานที่ร้านเป็นหลัก
*NRF
-นสพ.รายงาน เตรียมปิดดีลอีคอมเมิร์ซ 2 ดีล แย้มเป็นสินค้าสุดฮอต คนไทยนิยม พร้อมนำมาขยายตลาดอาเซียน ดันสัดส่วนขึ้นแตะ 40-50% ในปีหน้า ย้ำแผนเทคอีคอมเมิร์ซ 2 พันล้านบาท ใน 2 ปี มั่นใจโกยยอดขาย 3 พันล้านบาท ปี 2565
*PJW
-นสพ.รายงาน ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโตเด่น ยานยนต์ฟื้น แถมบาทอ่อนหนุนส่งออก บิ๊กบอส ปรับเป้าโต 8-10% จับตามาร์จิ้นแกร่ง หลังคุมต้นทุนอยู่หมัด พร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการลงทุนเข้าเต็มเม็ดเต็มหน่วย
*LPN
-นสพ.รายงาน ปรับแผนเปิดโครงการใหม่เหลือ 6 โครงการ มูลค่า 9.6 พันล้านบาท ยันไม่กระทบยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 1 หมื่นล้านบาท เหตุมีสินค้าพร้อมขาย มูลค่ารวม 9.5 พันล้านบาท และ Backlog อีกมูลค่า 2.7 พันล้านบาท