หุ้น AAV และ BA ราคาร่วงลง โดยเมื่อเวลา 10.04 น.หุ้น AAV ร่วง 10.92% มาอยู่ที่ 2.12 บาท ลดลง 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 34.88 ล้านบาท
ส่วนหุ้น BA ลบ 3.59% มาอยู่ที่ 9.40 บาท ลดลง 0.35 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.67 ล้านบาท
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯยังคงประเมินว่าหุ้นที่จะ underperform มากที่สุด ได้แก่ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) จากจำนวนผู้โดยสารที่จะฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียยังได้ประกาศขยายเวลาหยุดให้บริการชั่วคราวในเส้นทางบินภายในประเทศอีก 1 เดือน ถึงวันที่ 31 ส.ค.64 รวมถึงยิ่งกดดันกระแสเงินสดให้แย่ลง ซึ่ง AAV ประกาศงดจ่ายเงินเดือนพนักงานในเดือน ส.ค.
นอกจากนั้น หากสถานการณ์เดือน ก.ย.ยังไม่ดีขึ้น อาจต้องหยุดบินต่อเนื่อง ดังนั้น ระยะสั้นยังแนะนำ"ขาย"เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ AAV อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบริษัท โดยคาดว่าในเดือน ก.ย.จะมีเงินทุนก้อนแรกเข้ามาเสริมสภาพคล่อง และสามารถนำมาจ่ายเงินเดือนพนักงานได้
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุว่า AAV เผย "ไทยแอร์เอเชีย" ขยายเวลาหยุดบินชั่วคราวถึง 8 ส.ค. โดยจะรอดูประกาศของรัฐบาลซึ่งหากล็อกดาวน์ต่อ ไม่สามารถทำการบินได้ในเดือน ส.ค.นี้ ทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชียมีรายได้เป็นศูนย์ และอาจจะไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานเลย โดยจะยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานประกันสังคมให้ช่วยจ่ายรายได้ชดเชยแก่พนักงานของไทยแอร์เอเชีย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 5,000 คน
ขณะที่ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ประกาศหยุดบินเส้นทางสมุย-ภูเก็ตชั่วคราวตั้งแต่ 3 ส.ค. หลังภูเก็ตยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19
พร้อมคาด AAV จะมีผลขาดทุนปกติไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ขาดทุนมากขึ้น 8% QoQ และคาดผลขาดทุนครึ่งแรกของปีนี้คิดเป็น 45% ของประมาณการรวมทั้งปี AAV ประกาศหยุดบินให้บริการเที่ยวบินในประเทศทั้งหมดลงชั่วคราวระหว่างวันที่ 12 ก.ค. - 8 ส.ค. คงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 2.97 บาท โดยมีความกังวลมากขึ้นต่อสถานะการเงินของ AAV จากวิกฤติโควิด-19 ระลอกสามที่ยาวนาน