นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) ชี้แจงในส่วนของการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายหลังจากที่สายการบินไทยแอร์เอเชียประกาศหยุดกิจการชั่วคราวในเดือน ส.ค.นี้ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าให้บริการในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามปกติ แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้สายการบินทั่วโลกงดให้บริการทุกเที่ยวบินมาตั้งแต่ต้นปี 63 บริษัทขอยืนยันว่าการประกาศหยุดให้บริการชั่วคราวดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นการหยุดให้บริการเฉพาะส่วนของผู้โดยสารในประเทศ ซึ่งเรายังคงใช้บริการสายการบินพันธมิตร รวมทั้งไทยแอร์เอเชียเพื่อให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ในฐานะพันธมิตรผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัทได้ร่วมมือกับไทยแอร์เอเชียปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในส่วนของการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อทดแทนรายได้ในส่วนของผู้โดยสารให้กับสายการบินมาตั้งแต่ปี 63 โดยเริ่มจากการให้บริการเช่าเหมาลำเพื่อขนส่งสินค้าโดยเฉพาะหรือ Charter Flight ในไตรมาสแรกของปี 63
และต่อมาในไตรมาส 4/63 บริษัทได้พัฒนาการให้บริการมาเป็น Cargo Flight ซึ่งบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเต็มรูปแบบที่มีการกำหนดเส้นทางและความถี่ชัดเจนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด โดยปัจจุบันสามารถให้บริการได้ครอบคลุม 9 เส้นทาง ในประเทศจีน ฮ่องกง อินเดีย และมัลดีฟ สำหรับในอนาคตบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายเครือข่ายเส้นทางการให้บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นรายได้หลักให้กับสายการบินต่อไป
จากการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งในส่วนของการบริหารธุรกิจปัจจุบันภายใต้วิกฤติ และการพัฒนาธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มการหารายได้ทดแทน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเข้าลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและภูมิภาคเพื่อบริหารความเสี่ยง และการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์รูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่นทั้งการเติบโตของรายได้และผลกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจหลักที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการเติบโตของส่วนแบ่งกำไร ภายหลังจากที่บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการตั้งแต่ไตรมาส 3/63 มาจนถึงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่และเป็นการบริหารความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จากการเข้าลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวเนื่องด้านโลจิสติกส์ต่างๆ ทั้งในในประเทศและในระดับภูมิภาค ตั้งแต่บริษัทได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 59 เป็นต้นมา โดยมีการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มบริษัท AROUND บริษัท SAL และบริษัท AOTGA การลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ที่ต้องการความชำนาญเฉพาะด้าน ได้แก่ DGPS และ Coolchain รวมไปถึงและธุรกิจโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ ShipSmile และ Makesend โดยที่ผ่านมาบริษัทต่างๆ ดังกล่าวที่ทริพเพิล ไอโลจิสติกส์ ได้เข้าร่วมลงทุน ต่างสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน