ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวแคบ รอผลประชุมเฟด-น้ำมันพุ่งหวั่นกระทบศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 30, 2007 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

         นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้เริ่มแกว่งแคบและผันผวนเล็กน้อย เพราะเป็นช่วงของการประชุมเฟดในวันนี้และพรุ่งนี้ และแนวโน้มของดอกเบี้ยที่ประเมินกันอาจจะไม่มีการลดลงมากนักจึงมองว่าดัชนีวันนี้น่าจะชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเริ่มมีสลับบวกและลบกันแล้ว เกิดจากความเป็นห่วงราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว 
คำแนะนำในช่วงวันนี้ให้ลงทุนแบบระมัดระวังมีกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 925 จุด แนวรับ 908 จุด
"วันนี้พรุ่งนี้นักลงทุนไม่ควรที่จะเพิ่มพอร์ตมากนักควรลงทุนด้วยความระมัดระวังแและหันมาจับหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ช่วงนี้ควรรอผลการประชุมเฟดก่อน วันนี้คงต้องจับตาดูตลาดหุ้นรอบบ้านและราคาน้ำมันเป็น 2 ปัจจัยหลัก" นายรณกฤต กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(29 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,870.26 จุด เพิ่มขึ้น 63.56 จุด(+ 0.46%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,540.98 จุด เพิ่มขึ้น 5.70 จุด(+0.37%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,817.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.25 จุด (+0.47%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,999.59 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 93.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ โดยแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 93.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
- รมว.พลังงานยันไม่ใช้เงินกองทุนฯ ตรึงราคาน้ำมัน เล็งลดเก็บเงินไบโอดีเซลอีก 30 สตางค์/ลิตร เพิ่มส่วนต่างไบโอดีเซล-ดีเซลลิตรละบาทใน 1-2 วันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้า ตลาดสิงคโปร์พุ่งสูงสุดรอบใหม่ 93.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ประธานเชฟรอนชี้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับเพิ่มต่อเนื่อง ผู้ค้าจ่อปรับอีก 40 สตางค์สัปดาห์นี้ นักวิชาการชี้น้ำมันดิบปรับขึ้น 1 ดอลลาร์ กระทบจีดีพีลด 0.2% เงินเฟ้อเพิ่ม 0.3% ระบุนโยบายราคาน้ำมันต้องปล่อยตามกลไกตลาด แนะรัฐช่วยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย-ผู้ได้รับผลกระทบหนัก คาดปีหน้าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยใกล้เคียงปีนี้
- ซีพีทุ่ม 3.6 พันล้านดอลลาร์ ขยายลงทุน 'อสังหาฯ-ค้าปลีก -แบงก์-สื่อสาร' รวม 50% ของวงเงินลงทุนทั้งหมดใน 5 ปี รองรับเปิดเสรีการค้าปี 2552 มั่นใจศักยภาพเครือซีพี ภายหลัง 'ธนินท์' หารือร่วมรัฐมนตรีเวียดนาม เดินหน้าขยายสาขาเฟรชมาร์ทหนึ่งพันสาขาทั่วเวียดนาม พร้อมทุ่ม 100 ล้านดอลลาร์ ขยายธุรกิจอาหารสัตว์ อาหารแปรรูป ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- 'อัมมาร" ชี้รัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ เป็นรัฐบาลผสม สาเหตุจุดอ่อนแอเศรษฐกิจไทย ระบุภาคเอกชนจะมีส่วนขับเคลื่อนนโยบายมากขึ้น แนะภาคธุรกิจเร่งเสริมความเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลชัดเจนก่อนเสนอภาครัฐ
- บล.เคจีไอ สำรวจพบผลตอบแทนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของไทยสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดภูมิภาคเอเชียแม้จะมีขนาดเล็กและสภาพคล่องต่ำให้ผลตอบแทนที่ 7.3%ต่อปีและผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ระหว่าง 5-9% ขณะที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่5.5% ชี้มาตรการกันสำรอง 30% ทำให้ความน่าสนใจน้อยลงหากไม่ยกเลิกจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญของต่อการเติบโตในอนาคต
- ก.คลังออกมาตรการคุมเข้มจ่ายเงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจที่ให้บริการสาธารณะประสบปัญหาขาดทุนหวังให้เงินถึงมือประชาชนที่ต้องการอย่างแท้จริงในรอบ 3 ปีอุดหนุนขสมก. ร.ฟ.ท. และ กปภ. ไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท
-"ภัทรียา"ระบุ เม็ดเงินต่างประเทศที่เข้าลงทุนในตลาดห้นไทยในช่วงนี้ เชื่อว่าเป็นการปรับเพิ่มน้ำหนักในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ไม่เกี่ยวกับการสร้างราคาเพื่อหาเงินมาใช้สนับสนุนพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจไม่พบความผิดปกติของภาวะซื้อขายหลักทรัพย์ ในระยะนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนขยายสัดส่วนนักลงทุนสถาบันที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้มากขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันที่ 13% และต้องการให้มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยมาอยู่ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% และที่เหลือประมาณ 30% จะเป็นนักลงทุนต่างชาติ จากขณะนี้สัดส่วนประมาณ 35-40%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ