นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ FTREIT ในงวดไตรมาส 3/64-65 (เม.ย.-มิ.ย. 64) รายได้รวมอยู่ที่ 865.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.5 ล้านบาท หรือ 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และรายได้จากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 596.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.5 ล้านบาท หรือ 15.4% โดยมีปัจจัยหลักจากอัตราการเช่าเฉลี่ยที่สูงขึ้น และการเข้าลงทุนในทรัพย์สินในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64-65 (ต.ค. 63-มิ.ย 64) มีรายได้รวมจำนวน 2,539.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 274.1 ล้านบาท หรือ 12.1% ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 1,752.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238.4 ล้านบาท หรือ 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบัน FTREIT มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ ได้แก่ อาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 636 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 2.03 ล้านตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และจังหวัดในพื้นที่ EEC และมีอัตราการเช่าเฉลี่ย (Averager Occupancy Rate) อยู่ที่ 85.7%
ทั้งนี้ FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาส 3/64-65 ในอัตรา 0.1690 บาท/หน่วยทรัสต์ โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 1 ก.ย. 64 รวม 3 ไตรมาส FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลตอบแทน รวม 0.5050 บาท/หน่วยทรัสต์
นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 2/64 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศมีความรุนแรงมากขึ้น โดยภายในระยะเวลา 3 เดือน มีผู้ป่วยรายใหม่ติดเชื้อสะสมมากกว่า 200,000 ราย แต่ยังพบว่าผลกระทบต่อธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้ายังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากประเทศไทยได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่เติบโตมากขึ้น จากการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู้ค้าที่สำคัญของประเทศไทย ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอื่นๆ จากผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น
ภาคการส่งออกปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากธุรกิจขนส่ง โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซ มีการเติบโตมากขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งปัจจัยบวกดีงกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการยังมีความต้องการเช่าโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้น โดยจะเห็นได้จากอัตราการเช่าเฉลี่ยของกองทรัสต์ที่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 85.7% และรายได้ของกองทรัสต์ที่ยังมีการเติบโตมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ส่วนไตรมาส 4/64 แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่อาจจะมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งทางทีมงานบริหารทุกคนได้มีการประเมินความเสี่ยงและดำเนินกลยุทธ์ในการบริหารสินทรัพย์เชิงรุก รวมถึงแผนการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพในทำเลยุทธศาสตร์ทางด้านการผลิต และโลจิสติกส์จากทั้งกลุ่มบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FPT) และจากกลุ่มบุคคลอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตแก่กองทรัสต์ และสร้างผลประโยชน์ตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT