นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้ว่า ดีลเจรจาซื้อวัคซีนโควิดของ BioNTech ในเยอรมันจำนวน 20 ล้านโดส คาดว่าจะไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะติดขัดประเด็นหน่วยงานของรัฐที่จะเป็นผู้นำเข้าวัคซีน
นพ.บุญ ยอมรับว่า หน่วยงานรัฐที่ตนเจรจาด้วยไม่สามารถผ่านอุปสรรคของกระบวนการนำเข้าวัคซีนได้ แม้จะมีเจตนาดีที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือเป็นตัวกลางในนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์มาในประเทศไทยให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยตนเองได้เจรจากับหน่วยงานรัฐที่อยู่นอกเหนือจาก 5 องค์กรที่กฎหมายกำหนดให้มีอำนาจนำเข้าวัคซีน แต่ติดขัดกระบวนการต่างๆในประเทศไทย ทำให้สุดท้ายไม่สามารถนำเข้าวัคซีนได้ตามที่เคยกล่าวไว้
สำหรับการดีลเจรจานำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ในครั้งนี้ ได้ช่วยประสานงานตัวแทนขายและได้ทำสัญญาซื้อขายไปจำนวน 7-8 สัญญา เพื่อสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เข้ามา 20 ล้านโดส และวางเงินมัดจำไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งการที่ดีลนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แล้ว ทำให้ต้องเสียเงินมัดจำให้กับผู้ขายไป
"ตอนนี้ 90% คงไม่ได้นำเข้ามาแล้ว แม้ว่าหน่วยงานรัฐที่เราเปิดเผยไม่ได้เขาจะมีเจตนาดีในการนำเข้ามา และผมก็ช่วยเจรจาการค้าให้ แต่มีอุปสรรคในการทำงานของเขาที่ทำให้ผ่านไปไม่ได้ ทำให้สุดท้ายไม่สามารถนำเข้าวัคซีนได้ ผมก็เสียเงินมัดจำไป จากทำสัญญาซื้อ 7-8 สัญญา เพื่อนำเข้าวัคซีน 20 ล้านโดสเข้ามา ซึ่งหากภาครัฐเปิดทางในการจัดหาวัคซีนให้มากขึ้นกว่านี้ ผมก็พร้อมยินดีประสานงานให้ เพื่อช่วยเหลือประเทศ"นายบุญ กล่าว
ส่วนกรณีที่กระแข่าวว่าได้เจรจากับกระทรวงกลาโหมให้เป็นผู้นำเข้าวัคซีนไฟเซอร์นั้น นพ.บุญ กล่าวว่า เป็นการเจรจาของน้องชายซึ่งไม่ได้ทำงานใน THG ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม แต่ดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้น เพราะติดขัดในเรื่องกระบวนการเช่นเดียวกัน
นพ.บุญ กล่าวอีกว่า ไม่ได้มีเจตนาในการสร้างข่าวมาปั่นหุ้น และการซื้อหุ้นของตนและคนในครอบครัวปกติมีการทยอยซื้ออยู่แล้วทุกเดือน ไม่ได้ซื้อเฉพาะในช่วงที่มีกระแสข่าว พร้อมยืนยันว่าการเข้าไปเจรจากับหน่วยงานของรัฐเพื่อต้องการช่วยประเทศในการป้องกันโควิด-19 และรีบสั่งซื้อวัคซีนเข้ามา เพราะปัจจุบันหากสั่งซื้อวีคซีน MRNA จากไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาในตอนนี้ คงต้องไปส่งมอบกันในเดือน มี.ค.65