แพลตฟอร์ม SASOM ปิดดีลพันธมิตรเกาหลีในเครือ บ.แม่ LINE เข้าลงทุน Pre-Series A

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 4, 2021 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกษิต งานทวี ประธานเจ้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สะสม จำกัด ผู้พัฒนา Sasom แพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและของหายากรายแรกในภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและของหายากเป็นครั้งแรกในปี 62 และมีการระดมทุนครั้งแรกในระดับ Pre-Seed จากกลุ่มทุนในประเทศไทยไปแล้ว ล่าสุดเมื่อเดือนพ.ค. 64 บริษัทประสบความสำเร็จอีกครั้งในการระดมทุนระดับ Pre-Series A จาก Kream Corporation ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Naver ที่เป็นบริษัทแม่ของ LINE Corporation ส่งผลให้มีมูลค่ากิจการในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 140 ล้านบาท

โดยการระดมทุนดังกล่าวจะช่วยต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์มให้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการรองรับจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายที่เพิ่มขึ้น และยกระดับ SASOM เป็น The Collectors Paradise of Asia (สวรรค์ของนักสะสมแห่งเอเชีย) เทียบชั้นกับแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายากในระดับโลก

"ในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่ เรามีความภาคภูมิใจอย่างมากที่เป็นบริษัทสตาร์ตอัพไทยรายแรกๆ ในธุรกิจด้านแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายาก ที่ได้ความรับเชื่อมั่นจากบริษัทระดับแนวหน้าในเกาหลีใต้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท เนื่องจากมองเห็นศักยภาพแพลตฟอร์ม SASOM ที่สามารถตอบสนองความต้องการและเป็นคอมมูนิตี้ที่เป็น จุดนัดพบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมาซื้อขายแลกเปลี่ยนของสะสมและของหายากจากทั่วโลก โดยมีบริษัทฯ ทำหน้าที่คนกลางในการพัฒนาแพลตฟอร์มและตรวจสอบสินค้าทุกชิ้น เพื่อให้ความมั่นใจว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน"นายกษิต กล่าว

บริษัทจะร่วมมือกับ Kream Corporation ที่กำลังขยายธุรกิจด้านแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายากในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมนำเงินจากการระดมทุนมาใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM (สะสม) ให้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายได้ดียิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Machine Learning และการนำระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ตรวจสอบสินค้าว่าเป็นของแท้หรือไม่ เพื่อเพิ่มความมั่นใจการเลือกซื้อสินค้าและยกระดับ SASOM ให้เป็นแพลตฟอร์มของสะสมชั้นนำระดับโลก

จากความร่วมมือกันดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มโอกาสแก่คนไทยที่มีของสะสม สามารถเสนอขายสินค้าแก่ผู้ซื้อที่เป็นชาวต่างชาติผ่านแพลตฟอร์ม SASOM และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันเริ่มมีรองเท้าสำหรับนักกอล์ฟ ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและหายากจากประเทศเกาหลีใต้ มาจำหน่ายในแพลตฟอร์ม SASOM บ้างแล้ว

"เรามีแผนระดมทุนในระดับ Series A อย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยปัจจุบันทาง Kream Corporation พร้อมจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีหน้ากับเรา เพื่อร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM และร่วมเติบโตไปด้วยกัน ส่วนในอนาคตบริษัทวางเป้าหมายจะก้าวสู่การระดมทุนในระดับ Series B ต่อไปเพื่อยกระดับจากสตาร์ตอัพเป็นบริษัทชั้นนำในอนาคต"นายกษิต กล่าว

ปัจจุบันบริษัทถือเป็นสตาร์ตอัพไทยที่เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส SASOM ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและสินค้าหายากรายแรกในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้คอนเซปต์ "Next Generation Platform for Authentic Luxurious Transactions" โดยได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มหลังกลับจากการศึกษาต่อต่างประเทศ และพบว่าในประเทศไทยยังไม่มีแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายของสะสมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค จึงต้องใช้บริการสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศซึ่งต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน หรือสั่งซื้อจากผู้ขายในสื่อโซเชียลมีเดียซึ่งไม่รับประกันว่าเป็นของแท้ 100% และถือเป็น Pain Point ของผู้ซื้อ

โดยแพลตฟอร์ม SASOM มีของสะสมหลากหลายประเภททั้งสินค้ามือ 1 และมือ 2 ให้เลือกกว่า หมื่นรายการ อาทิ รองเท้าผ้าใบ (Sneaker), โมเดลของเล่นสะสมแบร์บริค (Be@rbrick) เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกา สเก็ตบอร์ด และอื่นๆ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ถือเป็นช่องทางการลงทุนที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้

จุดเด่นแพลตฟอร์ม SASOM คือเป็นแหล่งรวบรวมของสะสมรุ่นยอดนิยม รุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก หรือเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังเป็นที่ความนิยม โดยเฉพาะ Sneaker ที่มีให้เลือกมากมายกว่า 10,000 คู่ ราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท เช่น Nike, Jordan, Adidas, Yeezy เป็นต้น โมเดลของเล่นสะสม Be@rbrick ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่ม มิลเลเนียล และ เจ็น Z ที่มีให้เลือกกว่า 1,000 รายการ, เสื้อผ้าแบรนด์ Supreme รุ่นหายาก โดยสินค้าทุกชิ้นที่ลงประกาศขายจะได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด พร้อมติดป้ายสัญลักษณ์เพื่อรับประกันและให้ความมั่นใจแก่ผู้ซื้อว่าเป็นของแท้ 100%

"เราพัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM เปิดบริการเมื่อปี 62 เพื่อเป็นคอมมูนิตี้สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมแบรนด์เนมและสินค้าหายากจากทั่วโลก รวมถึงแก้ไข Pain Points ของผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมที่ไม่มีแพลตฟอร์มในประเทศไทยจึงต้องสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งต้องรอการจัดส่งเป็นระยะเวลานานและต้องเสียภาษีนำเข้า รวมถึงผู้บริโภคยังมีความเสี่ยงจากการถูกหลอกซื้อสินค้าลอกเลียนแบบอีกด้วย"นายกษิต กล่าว

SASOM มีบริการก่อนและหลังการขายที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย โดยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย อาทิ การโปรโมตสินค้า ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ การตรวจสินค้าเพื่อรับประกันของแท้ 100% บริการทำความสะอาดสินค้า ติดแผ่น sole protector เพื่อรักษาสภาพรองเท้า ให้ข้อมูลราคากลางเพื่อประกอบการตัดสินใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และล่าสุดได้พัฒนา Price Chart เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมที่ต้องการทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวด้านราคาของสะสมแบรนด์ต่างๆ

ในช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม SASOM ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อและผู้ขายเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดขายสินค้าเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 30 ล้านบาทภายในสิ้นปี 64 โดยจะมุ่งขยายฐานผู้ซื้อและผู้ขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนของสะสมในไทยและต่างประเทศ

"เราวางแผนขยายฐานผู้ซื้อและผู้ขายบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังมีแผนจะนำระบบ AR (Augmented Reality) เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า และพัฒนา SASOM ให้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ"นายกษิต กล่าว

แท็ก เอเชีย   เกาหลี   SAS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ