CNS ตั้งเป้างวดปี 51 ใช้อินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งรุกขยายฐานลูกค้าตจว.

          นายสุเทพ พีตกานนท์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บล.พัฒนสิน(CNS)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าในงวดปี 51 (สิ้นสุด ส.ค.)มีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ต(อินเตอร์เนตเทรดดิ้ง) 20% ของวอลุ่มเทรดทั้งหมดของบริษัท จากปัจจุบันอยู่ที่ 18% ซึ่งทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี โดยเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่
          ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต 2.5 หมื่นบัญชี ซึ่งมีจำนวนที่ซื้อขายสม่ำเสมอ 500 บัญชี และบริษัทก็จะขยายการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าในอนาคตจะมีการซื้อขายอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะลดต้นทุนด้านบุคคลากรด้วย
          "ในงวดปีนี้เราคงให้ความสำคัญกับการรุกอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยเราจะขยายลูกค้าในต่างจังหวัดด้วยการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้นอกเหนือจากรายได้จากโบรกเกอร์เพียงอย่างเดียว และยังเป็นการรองรับการเปิดเสรีค่าคอมฯในอนาคตด้วย" นายสุเทพ กล่าว 
          สำหรับส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ของบริษัทในงวดปี 51 เชื่อว่าจะสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นเป้าหมายในงวดปี 50 โดยคาดว่าอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ขึ้นได้  
          ขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจในงวดปี 51 บริษัทมีงานที่ปรึกษากระจายหุ้น IPO อยู่ในมือจำนวน 3-4 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวมกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งมีบริษัทที่เข้าเทรดในตลาด mai จำนวน 2 บริษัท และ เข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) 2 บริษัท รวมทั้ง ยังเป็นที่ปรึกษากองทุนอส้งหาริมทรัพย์ 2-3 กอง รวมมูลค่ากองทุนประมาณ 1 พันล้านบาท
          นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับปรุงสาขาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม โดยในช่วง 2-3 เดือนนี้จะมีการยุบสาขาที่บางนา  
          นายสุเทพ มองว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 51 จะคึกคักค่อนข้างมาก หลังจากที่มีการเลือกตั้ง และทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็จะส่งผลต่อการบริโภคกลับมา จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ประกอบกับ P/E ของตลาดหุ้นไทยยังมีระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเดียวกัน และอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนก็ยังมากกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน 
          ส่วนพอร์ตของ CNS มีเงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทจะปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับลูกค้า และธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL)