INTUCH เผยกำไร H1/64 หด 4.3% ตามส่วนแบ่งกำไร ADVANC-THCOM ลดลงหลังรับพิษโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 5, 2021 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ประกาศผลประกอบการครึ่งแรกของปี 64 มีรายได้รวม 7,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,474 ล้านบาท ลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส และ บมจ.ไทยคม(THCOM)ลดลง

นายเอนก พนาอภิชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร INTUCH เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทที่ INTUCH เข้าไปลงทุนได้รับผลกระทบ เนื่องจากเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค โดยส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ลดลง 1% ตามการลดลงของรายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลัก ขณะที่ TCOM มีส่วนแบ่งกำไรลดลงถึง 90% สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายการพิเศษจากเงินชดเชยในไตรมาส 2/63 และรายได้ที่ลดลงของการให้บริการดาวเทียม อันเนื่องมาจากลูกค้ามีการใช้งานลดลง

ในส่วน DVANC มีผลกำไรสุทธิในงวดครึ่งแรกของปี 64 ที่ 13,685 ล้านบาท ลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 2.4% ซึ่งเกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว และการแข่งขันด้านราคารุนแรง ขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีรายได้เติบโตถึง 19% เนื่องมาจากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ทั้งการทำงานที่บ้านและการเรียนออนไลน์จึงทำให้จำนวนผู้ใช้งานเอไอเอสไฟเบอร์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นสุทธิ 104,000 รายในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ ลูกค้าองค์กรยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากความต้องการของภาคธุรกิจที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นโดยมีความต้องการใช้บริการโซลูชั่น

ในส่วนของการขยายโครงข่าย 5G ADVANC สามารถขยายได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 25 ของประชากร โดยเน้นลงทุนบนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ ในพื้นที่ที่มีปริมาณการใช้งานสูง ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 5G แล้วกว่า 1 ล้านราย คิดเป็น 9.6% ของฐานลูกค้ารายเดือน โดยปรับเป้าหมายจำนวนลูกค้า 5G เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้

ด้านผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 64 THCOM มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 70 ล้านบาท ลดลงจากผลกำไรสุทธิ 695 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการรับรู้รายการพิเศษจากเงินชดเชย ค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายที่เพิ่มขึ้น และมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า

THCOM มีรายได้จากการขายและให้บริการในงวดครึ่งแรกของปี 64 ที่ 1,584 ล้านบาท ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากดาวเทียมแบบทั่วไปลดลงร้อยละ 13 จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 ในเดือน ก.พ.63 และการลดการใช้งานของลูกค้าในประเทศ ขณะเดียวกัน รายได้จากดาวเทียมบรอดแบนด์ลดลง 15% จากการใช้งานลดลงของลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งอัตราการใช้งานดาวเทียมแบบทั่วไป ณ สิ้นไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 64% เพิ่มขึ้นจาก 63% ณ สิ้นไตรมาส 2/63 และอัตราการใช้งานดาวเทียมบรอดแบนด์อยู่ที่ 18% ลดลงจาก 19% ณ สิ้นไตรมาส 2/63 ขณะที่ต้นทุนจากการขายและให้บริการลดลงตามการลดลงของรายได้จากการให้บริการดาวเทียมเป็นหลัก

ทั้งนี้ THCOM พร้อมจะเข้าประมูลสิทธิการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมจาก กสทช. เพื่อส่งเสริมธุรกิจดาวเทียมของประเทศไทยให้แข็งแกร่งพร้อมรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นด้วยศักยภาพและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่มีมายาวนาน

นายเอนก ยังกล่าวว่า ครึ่งแรกของปี 64 โครงการอินเว้นท์ (InVent) ได้ลงทุนเพิ่มในบริษัท โคนิเคิล จำกัด และมีการตีมูลค่าเพิ่มจากการเพิ่มทุนในบริษัท แอกซินัน พีทีอี ลิมิตเต็ด หรืออิกลู จากการระดมทุนรอบใหม่ รวมทั้งได้รับเงินกู้ยืมคืนจากบริษัทสตาร์ทอัพรายหนึ่ง จึงทำให้มูลค่าการลงทุนในโครงการอินเว้นท์ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 อยู่ที่ 1,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จาก 975 ล้านบาท ณ สิ้นปี 63

ส่วนโครงการ Venture Builder ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/64 ได้ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) ที่จะช่วยยกระดับ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสุขภาพด้วยเทคโนโลยี 5G และเครือข่ายของอินทัช รวมทั้งยังเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงหรือกระจายการรักษาพยาบาลไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ในวงกว้าง ปัจจุบันได้คัดเลือก 3 ทีม ที่ตรงกับเป้าหมายการลงทุนของอินทัชซึ่งอยู่ในช่วงการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 64

ปัจจุบัน อินเว้นท์มุ่งเน้นการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศในกลุ่ม HealthTech EdTech และ FinTech ที่สามารถนำมา synergy กับกลุ่มบริษัท เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับกลุ่มอินทัชให้เข้าถึงโอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ 5G เทคโนโลยีคลาวด์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Solutions) เป็นต้น

อินทัช ยังคงมุ่งมั่นบริหารสินทรัพย์และลงทุนในธุรกิจใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัลเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นออย่างยั่งยืน รวมทั้งตั้งเป้าการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 ล้านบาทภายในปี 68


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ