ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (3 ต.ค. 2550) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนเลือกที่จะเทขายทำกำไรในการซื้อขายช่วงบ่าย เบรกการพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้
หุ้นบลูชิปปรับตัวสูงขึ้นด้วยการนำของหุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ซึ่งก่อนหน้านี้หนุนดัชนีสเตรทส์ไทม์จนพุ่งแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ระหว่างวันที่ 3,851.88 จุด
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ถอยลง 39.21 จุด หรือ 1.0% ปิดที่ 3,754.62 จุด โดยมีการซื้อขายอยู่ระหว่าง 3,744.36 และ 3,851.88 จุด และมีปริมาณการซื้อขาย 3.3 พันล้านหุ้น มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
เค อาจิต นักวิเคราะห์จากยูโฮบี เคย์ เฮียน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนจะเทขายทำกำไรหลังตลาดปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อหุ้นบลูชิปและหุ้นบริษัทจีน
หุ้นบริษัทจีนปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากจีนอาจอนุมัติเงินทุนเพิ่มเติมที่สามารถนำไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ ภายใต้โครงการ QDII (นักลงทุนสถาบันในประเทศที่มีคุณสมบัติเหมาะสม)
นายอาจิตกล่าวว่า ตลาดฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานลงหลังการปรับขึ้น และตลาดสิงคโปร์ก็ดำลังดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน "นี่เป็นการปรับฐานลงครั้งแรกเท่านั้น คาดว่าอีก 2-3 วันต่อจากนี้จะมีการปรับฐานลงอีก" และตลาดจะยังคงผันผวนต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ปรับลดลง 30 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบีปรับลดลง 20 เซนต์ และหุ้นธนาคารโอซีบีซีลดลง 10 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยหุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 60 เซนต์ หุ้นเคปเพล แลนด์ ถอยลง 10 เซนต์ และหุ้นแคปิตัลแลนด์ ถอยลง 5 เซนต์
หุ้นคอสโค ลดลง 10 เซนต์ และหุ้นไชน่า เอเนอร์จี ถอยลง 5 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--