บลจ.ไอเอ็นจีระบุหุ้นไทยพุ่งส่งผลกองทุนหุ้นมีผลตอบแทนสูงถึง 37%

          บลจ.ไอเอ็นจี เผยความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและความชัดเจนเรื่องเลือกตั้ง พร้อมการผลักดันโครงการรถไฟฟ้า ช่วยให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ มีผลตอบแทนพุ่ง 37.35% ตั้งแต่ต้นปี สูงกว่าตลาดที่ให้ผลตอบแทน 24.37%
          นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการที่มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้นปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ(NAV) ของกองทุนรวมหุ้นทุนของไอเอ็นจีปรับสูงขึ้นตามไปด้วย 
          โดยเฉพาะ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นทุนของไอเอ็นจี สามารถสร้างผลตอบแทนกว่า 37% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึง 28 ก.ย.50 และย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 18.87% ย้อยหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 38.15% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 36.44% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนผลตอบแทนสูงถึง 140.33% 
          "ที่ผ่านมาดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นทุนของไอเอ็นจี ผลตอบแทนจากการลงทุนจึงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย" นายจุมพล กล่าว
          นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นไปอย่างคึกคัก มาจากสถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ภาวะตลาดลงทุนโดยรวมทั่วเอเชียก็มีส่วนเกื้อหนุน โดยเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีผลตอบทนในระดับแนวหน้าของเอเชียในปี 51 เมื่อพิจารณาจากอัตราการเติบโตของกำไรปีหน้า และ P/E ของตลาดหุ้นไทยขณะนี้อยู่ประมาณ 14-15 เท่า ซึ่งสูงกว่าในช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่กล้าซื้อหุ้นในราคาสูงขึ้น