"ชนะ"พร้อมลุยงาน AOT หลังเซ็นสัญญาจ้างปลาย ต.ค./เร่งแก้ปัญหา-หารายได้

          พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร ว่าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามแผนงานที่ได้เสนอแนวทางที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาของ ทอท. ได้แก่ การแก้ปัญหาในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การแก้ปัญหาผลกระทบด้านเสียงบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งหลังจากลงนามสัญญาว่าจ้างในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้แล้ว ตนเองก็จะจัดทำแผนงานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันตามที่คณะกรรมการ ทอท.กำหนด 
          โดยแผนงานนี้จะผสมผสานระหว่างแผนวิสาหกิจของ ทอท. และวิสัยทัศน์ที่ตนเองได้แสดงในการสอบสัมภาษณ์ โดยสิ่งแรกที่จะเร่งดำเนินการคือการแก้ปัญหาความไม่สะดวกสบายของผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะถือเป็นหน้าตาของประเทศ
          ในวันนี้ พล.อ.ท.ชนะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม และได้รับมอบหนังสือแนวทางการพัฒนาระบบการขนส่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนหรือสมุดปกขาว พร้อมหนังสือการแก้ไขปัญหาของกระทรวงคมนาคม เพื่อให้เป็นแนวทางในการบริหารงาน ทอท.ในอนาคต
          ส่วนการแก้ปัญหาที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีก็คงยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไร แต่หากเป็นกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารก็ต้องมีการร้องขอเป็นกรณีพิเศษ เช่น การขอพื้นที่เพื่อไว้สำหรับเป็นทางหนีไฟ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทราบว่าบริษัท คิงเพาเวอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนจะมีการประนีประนอมกันหรือไม่นั้น เห็นว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายไม่มีวิธีการใดที่จะดีเท่ากับการตัดสินด้วยกฎหมาย และหากทอท.จะดำเนินการในรูปแบบใดก็ต้องหารือขอความเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุด 
          นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วต้องเร่งเพิ่มรายได้ให้กับ ทอท. เนื่องจากในอนาคตเงินกู้ต่างๆที่ ทอท.ได้กู้มาก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเริ่มถึงกำหนดชำระคืน ทำให้รายจ่ายของ ทอท.เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้เท่าเดิม เช่น การให้เช่าที่ท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับเป็นคลังสินค้าและศูนย์ซ่อมเครื่องบิน 
          ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น คาดว่าจะรองรับผู้โดยสาร 45 ล้านคนได้ในอีก 1-2 ปี หลังจากนั้นก็ต้องทยอยย้ายเที่ยวบินที่ไม่ต่อเครื่องกลับไปที่ดอนเมือง เพื่อเป็นการชะลอการลงทุนขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งแผนการก่อสร้างระยะที่ 2 นั้น จะต้องพิจารณาฐานะการเงินของ ทอท.ด้วย  โดยยอมรับว่าเงินของ ทอท.ไม่ได้มีมากมาย  
          สำหรับการแก้ปัญหาผลกระทบด้านเสียงของสนามบินสุวรรณภูมินั้น ต้องขอความเห็นใจจากประชาชนเพราะไม่มีใครต้องการให้เกิดเสียงดัง แต่เป็นเรื่องปกติของท่าอากาศยาน และการเรียกร้องเพื่อให้จ่ายเงินค่าชดเชยก็ต้องให้สมเหตุสมผล เพราะ ทอท.ก็ไม่มีเงินมากและกระทรวงการคลังก็ไม่ได้อนุมัติเงินมาให้ตามที่ ทอท.ต้องการทั้งหมด แต่ในส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ทอท.ก็ไม่ปฎิเสธการให้ความช่วยเหลือ