นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) เปิดเผยว่า ในเดือน ส.ค.64 นี้บริษัทได้หยุดจ่ายเงินเดือนพนักงานมากกว่า 80% หรือประมาณ 1,200 คน หลังจากที่ภาครัฐขยายมาตรการล็อกดาวน์ออกไปถึง 18 ส.ค.เป็นอย่างน้อย ทำให้บริษัทไม่สามารถทำการบินได้ นอกจากนั้น บริษัทเห็นว่าจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ยังไม่สามารถกดตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงได้ จึงประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะขยายมาตรการไปถึงเดือน ก.ย.64 ซึ่งจะทำให้สายการบินยังไม่สามารถทำการบินได้
ส่วนพนักงานอีกกว่า 200 คนที่ปฏิบัติงานให้บริการเที่ยวบิน ณ สนามบินอู่ตะเภา บริษัทจะยังคงจ่ายเงินเดือน เพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ผ่อนปรนให้ NOK สามารถทำการบินที่สนามบินอู่ตะเภาได้ แต่ก็ทำรายได้เพียงวันละ 6 แสนบาท ทำให้บริษัทต้องเผชิญผลขาดทุน เพราะมีเพียงไม่กี่เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารน้อยมาก รวมทั้งค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เพราะต้องนำเครื่องบินเปล่าไปรับผู้โดยสารที่ภูเก็ต
นายวุฒิภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินนกแอร์ได้ส่งหนังสือถึง รมว.คลัง เพื่อขอการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% เป็นเวลา 60 เดือน โดยจะเริ่มผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป
ปัจจุบันสายการบินนกแอร์ยังพอมีกระแสเงินสดสำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจใน 90 วันข้างหน้า เนื่องมาจากวงเงินกู้ที่ผู้ถือหุ้นให้กู้จำนวน 2,700 ล้านบาทยังใช้ไม่หมด และบริษัทได้หยุดการจ่ายคืนหนี้ เพราะอยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ โดยการจะนำเงินออกไปใช้คืนต้องได้รับการอนุญาตจากศาลล้มละลายเสียก่อน
ด้านแหล่งข่าวสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ระบุว่า สายการบินฯได้หยุดการจ่ายเงินให้พนักงานในเดือน ส.ค.64 เช่นกัน เนื่องจากบริษัทไม่ได้ทำการบินเลย ทำให้ไม่มีรายรับ โดยรอบนี้ภาครัฐได้ขยายมาตรการล็อกดาวน์ถึงกลางเดือน ส.ค.นี้เป็นอย่างน้อย แต่คาดว่าน่าจะขยายมาตรการต่อเนื่อง เพราะยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้