นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ส.ค.ได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือ "โครงการเกษตรอินทรีย์ เขาค้อ อินโนเวชั่น พาร์ค" ระหว่างบริษัท สยามแคนนาเทค จำกัด กับ บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี (ประเทศไทย) และบริษัท สยามแคนนาเทค จำกัด กับ ALT เพื่อต่อยอด โครงการเกษตรอินทรีย์เขาค้อ อินโนเวชั่นพาร์ค ในการปลูกกัญชาเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงใช้แพลตฟอร์ม AI เกาะติดทุกขั้นตอนการปลูกกัญชานำข้อมูลหรือ Big data มาวิเคราะห์ประมวลผล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยรวมทั้ง รักษาสมดุลผู้ซื้อและผู้ปลูก และสร้างประสิทธิภาพสูงสุดทั้งคุณภาพและราคา
สำหรับโครงการเกษตรอินทรีย์ เขาค้อ อินโนเวชั่น พาร์ค เป็นโครงการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ พืชพรรณ สมุนไพร พืชยา กัญชา และผักต่างๆ ตามโครงการทหารพันธุ์ดี ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในพื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งสร้างรายได้ให้วิสาหกิจชุมชนอีกทางหนึ่ง
"ALT จะนำเอาองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมา ดัดแปลงทำเป็นแพลตฟอร์มในการตรวจติดตามการปลูกกัญชา เพราะตัวกัญชา ถือเป็นสารเสพติดประเภท 5 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจติดตามตั้งแต่เมล็ด การเพาะปลูก และการเติบโตเป็นอย่างไร โดยใช้ AI ในการติดตามประมวลผลและวิเคราะห์เพื่อไปทำ Big Data ให้สามารถคาดการณ์ว่า การผลิตจะออกมาวันไหน เดือนไหน เท่าไหร่ เพื่อไปสู่การใช้เทคโนโลยีด้านเกษตรแม่นยำ ( Agriculture Technology) และ ระบบสามารถ แมชชิ่งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ผลผลิตไม่ล้นตลาด หรือไม่ทำให้ราคาสูงจนเกินไป แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยและช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ส่งผลผลิตได้ตามเวลาที่ต้องการ ให้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรและเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศไทย"นางปรีญาภรณ์ กล่าว
ด้านนายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเห็นการทำงานครบ value chain โดยทางโครงการเกษตรอินทรีย์หรือมูลนิธิ เป็นเสมือนแกนกลางในการเชื่อมโยงภาคเอกชน 3 ส่วน คือ ผู้ปลูก ซึ่งผู้ปลูกก็ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนปลายน้ำคือผู้ผลิต ก็คือบริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี จะการดำเนินการผลิต ทั้งที่เป็นยาแผนปัจจุบัน สมุนไพร อาหารเสริม และเครื่องสำอาง รวมทั้งเครื่องมือที่อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาตสกัดกัญชา กัญชง และพืชเสพติด
ดังนั้น ผู้ปลูกสามารถทำหน้าที่ซัพพลายกัญชา หรือพืชสมุนไพรอื่นให้กับบริษัทโรงงานเภสัชฯ เจเอสพี นำมาสกัดโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือใช้แพทย์แผนไทยมาต่อยอดในการสกัดสมุนไพรเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ยาแผนโบราณ อาหารเสริม เครื่องสำอาง ที่มาจากน้ำมันกัญชา ทำเป็นครีมเซรั่ม ถือเป็นความร่วมมือที่ครบทั้งห่วงโซ่อุปทาน คือต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ