(เพิ่มเติม) "ไซแมทฯ" คาดกำหนดราคาขาย IPO ได้กลางเดือนหน้าจากช่วง 3.5-3.8 บ.

          นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี คาดว่าจะสามารถสรุปราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก(IPO)ได้ในช่วงกลางเดือนหน้า หลังจากกำหนดช่วงราคาที่ 3.50-3.80 บาท/หุ้น โดยบริษัทจะเปิดขายหุ้นปลายเดือนพ.ย.นี้ จำนวน 18.75 ล้านหุ้น
          "จะมีการโรดโชว์ให้กับนักลงทุนในช่วงปลายเดือนนี้ โดยเชื่อว่าหุ้นของบริษัทจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจของบริษัทจะเติบโตตามตลาด IT ซึ่งคาดว่าหลังการเปิดขายในช่วงปลายเดือนพ.ย.จะสามารถเข้าเทรดใน mai ได้ 12 ธ.ค." นายทองคำ กล่าว 
          นายทองคำ กล่าวต่อว่า ในส่วนของรายได้ปีนี้บริษัทจะพยายามรักษาให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 286 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 138 ล้านบาท และเชื่อว่าในครึ่งปีหลังรายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก ตามฤดูกาลปกติของธุรกิจ 
          นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 31% ซึ่งเป็นการลดลงเมื่อเทียบกับกำไรขั้นต้นในปีก่อนที่ 37% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขันด้าน IT ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากระดมทุนแล้วและมีเม็ดเงินในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะด้าน Radio Frequency Identification(RFID)ที่ขณะนี้ภาครัฐได้ให้ความสนใจมาก 
          ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าภาคเอกชน 95% และที่เหลือเป็นภาครัฐ แต่ในอนาคตบริษัทจะพยายามเพิ่มฐานลูกค้าภาครัฐมากขึ้น
          นายทองคำ กล่าวว่า ในปี 50 ตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศจะขยายตัว 13% โดยเฉพาะตลาดซอฟท์แวร์ ที่ขยายตัวมากที่สุด ซึ่งจะสอดคล้องกับระบบ RFID ที่มีแนวโน้มขยายตัว 
          ด้านนายวิชา โตมานะ Head of Investment Banking บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เชื่อว่า หุ้นของไซแมทฯ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่องจากมีการเติบโตตามธุรกิจ IT ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงเทรดภาวะตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นก็จะเป็นตัวกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุน 
           บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนจำนวน 18.75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้ว ภายหลังจากที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ Grand-Flo กลุ่มมานะศิลปพันธ์ และนายรณภูมิ สุวิริยะกุลชัย จะเท่ากับร้อยละ 36.75 ร้อยละ 34.50 และร้อยละ 3.75 ตามลำดับ จากปัจจุบันที่ถือ 49%, 46% และ 5% โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัท