นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วีจีไอ (VGI) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 64/65 (เม.ย.-มิ.ย.64) ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความท้าทายอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 กลุ่มบริษัทฯ ยังสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บันทึกรายได้ที่ 596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.7% และมีผลกำไรสุทธิที่ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านอยู่ที่ 378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิม 266 ล้านบาท และรายได้ของธุรกิจบริการด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น 21.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 218 ล้านบาท
สำหรับทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ แม้ในปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดผ่านการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคหรือ Engagement บนทุกแพลตฟอร์มของบริษัทฯ ทางด้านธุรกิจบริการชำระเงิน ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์ผ่านกลุ่มแรบบิทที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์ โดยบริษัท แรบบิท ไลน์ เพย์ จำกัด ได้ร่วมมือกับ KBank เปิดตัวบัตรเครดิต LINE POINTS Credit Card ตอบรับเทรนด์การใช้จ่ายของผู้บริโภคยุคใหม่
ในไตรมาสนี้ VGI ได้ต่อยอดระบบนิเวศของธุรกิจด้วยการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ชผ่านการเข้าลงทุน 51.0% ในบริษัท แฟนส์ลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด(Fanslink) ผู้นำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอี-คอมเมิร์ซของจีน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองบริษัทในการขยายขีดความสามารถทางธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของ Fanslink เมื่อผนึกรวมกับอีโคซิสเต็มของ VGI จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ VGI ได้ในอนาคต
"แม้ว่าสถานการณ์การกระจายวัคซีนทั่วโลกจะมีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นในปี 64 แต่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก จากการระบาดครั้งล่าสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ยังมีจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่มาตรการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตที่มีความผันผวนมากกว่าปกติ ด้วยเหตุนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 64 ลงมาอยู่ที่ 0.7% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในอาเซียน แม้จะต้องเผชิญกับสภาวะกดดันดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่ VGI ยังคงมุ่งเน้นการบริหารงานภายใต้กลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และสร้าง Synergy ร่วมกับหน่วยธุรกิจใหม่ รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินและการสำรองเงินสด ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งภายหลังจากวิกฤตการณ์นี้สิ้นสุดลง" นายเนลสัน กล่าว