บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ระบุว่า ในปีนี้บริษัทได้มุ่งเน้นขยายการลงทุนในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งการเปิดศูนย์บริการทางการแพทย์แบบเฉพาะเจาะจง และการร่วมทุนในธุรกิจโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิของ BGH ในปีนี้จะลดลงจากปีก่อน
ขณะที่ในด้านรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนเพียง 15% มาที่ 1.9-2.0 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 20%
อย่างไรก็ตาม การขยายการลงทุนในปีนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจในอนาคต โดยในปี 51 คาดว่าจะมีผู้ป่วยต่างประเทศเข้ามาใช้บริการเพิ่มเป็นสัดส่วน 35% จาก 30% ในปีนี้ และจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีนี้ประมาณ 15%
BGH ยังยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีแนวคิดในการขายหุ้น บมจ.ประสิทธิ์พัฒนา (PYT)และ บมจ.สมิติเวช(SVH) โดยจะคงสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการโรงพยาบาลทั้งสองแห่งในระดับเดิมต่อไป
น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร BGH กล่าวว่า รายได้ในปีนี้ที่ปรับตัวลดลงมา เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ได้ชะลอตัวลง ส่งผลให้ผู้ป่วยชะลอการเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาล แม้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(2550)มองว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะมีการปรับตัวดีขึ้น เพราะเป็นช่วงฤดูกาลในการรักษา
ขณะเดียวกันในส่วนของกำไรของบริษัทฯในปีนี้ก็คาดว่าจะปรับตัวลดลงกว่าปีก่อน(49)เช่นกัน เนื่องจากโรงพยาบาลได้มีการขยายการลงทุนด้านการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คือการสร้างโรงพยาบาลใหม่ที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนต่างประเทศจะมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่ที่นครวัด ประเทศกัมพูชา ทั้งสองแห่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในต้นปีหน้า(2551) นอกจากนี้โรงพยาบาลกรุงเทพยังได้เข้าไปร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติในการสร้างโรงพยาบาลที่อาบูดาบี คาดว่าจะเปิดให้ดำเนินการได้ในช่วงกลางปีหน้า รวมทั้งยังมีการลงทุนสร้างศูนย์การแพทย์เฉพาะทางภายในโรงพยาบาลอีกด้วย
จากการลงทุนดังกล่าวนี้ คาดว่าบริษัทฯจะได้เห็นการเติบโตที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า(2551)เติบโต 15% หรือคิดเป็น 2.3 หมื่นล้านบาท จากปี 2550 และปีหน้า BGH จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปีนี้(2550)ที่มี 30% ส่วนลูกค้าในประเทศจะลดสัดส่วนลงเหลือ 65% จากปีนี้ที่มี 70% โดยเพิ่มได้จากการที่โรงพยาบาลได้รับการยอมรับการเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่ดีในด้านการแพทย์จากประเทศสหรัฐอเมริกา
"เป็นธรรมดาที่เศรษฐกิจทั่วโลกปรับตัวลดลง ก็จะทำให้ประเทศต่าง ๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้รับผลพ่วงไปด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ BGH จะมีรายได้ที่ปรับตัวลง และหากพิจารณาจะเห็นว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างประเทศที่ถือหุ้น BGH 13-14% ไม่ได้ลงทุนเพิ่มและก็ไม่ได้ไปไหน"น.พ.ปราเสริฐ กล่าว
ประธานคณะผู้บริหาร BGH กล่าวว่า ทางบริษัทฯก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายแพทย์วิชัย ทองแตง ในการขอซื้อหุ้นบมจ.ประสิทธิ์พัฒนา (PYT) คืนตามที่มีกระแสข่าวออกมา แต่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้ทยอยเก็บหุ้น BGH เพราะราคาอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ BGH ถือหุ้นใน PYT ในสัดส่วน 15% และ บมจ.สมิติเวช(SVH) 93% โดยจะคงสัดส่วนการถือหุ้นทั้งสองแห่งในระดับเดิมต่อไป
"ที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการทยอยเก็บหุ้น BGH ผ่านตลาดฯในช่วงที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะเก็บหุ้นได้ เพราะเห็นว่าหุ้นโรงพยาบาลมีอัตราการเติบโตที่ดี"ประธานคณะผู้บริหาร BGH กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--