นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามยอดส่งออกแป้งมันสำปะหลังที่เติบโตขึ้น ขณะที่สัดส่วนการส่งออกในธุรกิจอาหารปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ใกล้เคียง 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 14% อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยผลิตสินค้าประเภท "ไบโอพลาสติก" ซึ่งเป็นผลผลิตต่อยอดจากสินค้าทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% สามารถนำไปใช้ในรูปแบบประเภทสินค้าภาชนะ และของใช้ในการเกษตรทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปีนี้ และจะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 65
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/64 มีรายได้รวม 2,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,708 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 12 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่สูง โดยเฉพาะในประเทศที่สำคัญ ปัญหาเรื่องขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลาย ราคาส่งออกเฉลี่ยของมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์ ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ส่งผลให้ธุรกิจอาหารยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 64 มีรายได้รวม 4,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 3,258 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท
"ภาพรวมรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วในช่วงไตรมาส 2 และ 3 จะเป็นช่วง low season เนื่องจากการผลิตที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 ยังมีปริมาณสินค้าซึ่งเป็นสินค้ารอส่งในช่วงต้นของไตรมาสที่ 3 คงเหลืออยู่ นอกจากนี้ปริมาณความต้องการสินค้ายังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะประเทศส่งออกที่สำคัญ" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว
สำหรับทิศทางครึ่งปีหลังนี้ คาดว่านอกจากจะมีปริมาณสินค้ารอส่งในไตรมาส 3/64 แล้ว ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวหัวมันในไตรมาส 4/64 ที่จะถึงนี้ จะมีหัวมันออกสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากราคาดี และสภาพอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ไม่แล้ง ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเติบโต Double Digit เมื่อเทียบกับปี 63 อยู่ที่ 7,090 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบ 3 บริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นสินค้าประเภทอาหารและส่วนประกอบในอาหารขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขณะที่สินค้าแป้งมันสำปะหลังของบริษัทส่วนใหญ่ ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และไต้หวัน