โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น TOP ประเมินปีหน้า(2551)ผลประกอบการเติบโตดีมากคาดการณ์กำไรสุทธิของปี 2551 ไว้ที่ 19,214-22,000 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 9.42-10.90 บาท จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของโรงกลั่นที่เพิ่มอีก 50,000 บาร์เรล/วัน และส่วนของปิโตรเคมีที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 9 แสนตัน/ปี จากเดิมที่มีกว่า 4 แสนตัน/ปี
นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากค่าการกลั่นที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง รวมทั้งคาดว่าจะชนะการประมูลโรงไฟฟ้า IPP ได้ 1 โรง หากชนะประมูลจริงเบื้องต้นจะทำให้มูลค่าของ TOP เพิ่มอีก 5 บาท/หุ้น
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/50 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 3,880 ล้านบาท ลดลง 38% QoQ ส่วนไตรมาส 4/50 คาดว่าจะอ่อนตัวมาก เนื่องจากมีการปิดโรงกลั่นในช่วงวันที่ 6 ต.ค.-10 ธ.ค.2550
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมายปี 51
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อลงทุน 94.00
บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 94.00
บล.เกียรตินาคิน ซื้อลงทุน 93.00
บล.ฟินันซ่า ซื้อ 99.00
บล.แอ๊คคินซัน ซื้อ 98.00
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ให้เหตุผลที่แนะนำให้"ซื้อลงทุน"หุ้น TOP ว่า มองเป้าหมายปีหน้า(2551)ที่กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 50,000 บาร์เรล/วัน และค่าการกลั่นจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ รวมทั้งคาดว่าจะชนะการประมูลโรงไฟฟ้า IPP ได้ 1 โรง ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการของ TOP จะเติบโตดีในปีหน้า โดยคาดการณ์กำไรสุทธิ 19,214 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 9.42 บาท/หุ้น
แต่ผลประกอบการของ TOP ในไตรมาส 4/50 คาดว่าจะออกมาไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมีหยุดเดินเครื่องโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 4/50
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ปีหน้า(2551)TOP มีแนวโน้มที่จะเติบโตดี เนื่องมาจากการขยายกำลังการผลิตในส่วนของโรงกลั่น 50,000 บาร์เรล/วัน และในส่วนของปิโตรเลียมจะมีกำลังการผลิตเป็น 9 แสนตัน/ปี จากเดิมที่มี 4 แสนกว่าตัน/ปี
รวมทั้งคาดการณ์ว่า TOP จะชนะการประมูลโรงไฟฟ้า IPP 1 โรง ซึ่งหากชนะประมูลจริงก็จะทำให้มูลค่าเบื้องต้นของ TOP เพิ่มขึ้นอีก 5 บาทจากราคาเป้าหมายที่ 94 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ได้คาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ในปีหน้า(2551)ไว้ที่ 19,921 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 9.77 บาท ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/50 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 3,880 ล้านบาท ลดลง 38% QoQ เนื่องจาก Spread ของโรงกลั่น, ปิโตรเคมี,น้ำมันหล่อลื่น ทุกผลิตภัณฑ์ได้ปรับตัวลดลง และในไตรมาส 4/50 คาดว่าจะอ่อนตัวมาก เนื่องจากมีการปิดโรงกลั่นในวันที่ 6 ต.ค.-10 ธ.ค.2550
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ผลประกอบการของ TOP ในปีหน้า(2551)คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง นอกจากนี้ TOP ยังมีโอกาสที่จะชนะการประมูลโรงไฟฟ้า IPP โดยคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นไว้ที่ 10.82 บาท เติบโต 35% จากปีนี้(2550)
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊คคินซัน กล่าวว่า TOP ปีหน้า(2551)จะมีผลประกอบการที่ออกมาดี นอกจากกำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 22% เป็น 2.7 แสนบาร์เรล/วันแล้ว ยังขยายกำลังการผลิตในส่วนของปิโตรเคมีด้วย ซึ่งจะทำให้ TOP มีมาร์จินสูงขึ้น เนื่องจาก Cost ไม่ได้เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ในปีหน้า(2551)ไว้ที่ 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 16,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นคาดว่าจะมี 10.90 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่คาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้นจะมี 7.65 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--