VNG มั่นใจ H2/64 โตแข็งแกร่งตามยอดขายตปท.ฟื้น-รับรู้โรงไฟฟ้าชีวมวล

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 16, 2021 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.วนชัย กรุ๊ป (VNG) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของโลกเริ่มควบคุมได้ และกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผลักดันยอดขายไปต่างประเทศในช่วงไตรมาส 3/64 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/64 จะได้รับแรงหนุนจากยอดขาย OSB (Oriented Strand Board) และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งถือเป็น New Growth Driver ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ในปี 65 บริษัทจะสามารถเดินการผลิตแผ่น OSB ได้อย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพสูง เป็น New Growth Driver ของปี 2565

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,052 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 35.69 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมจากการขายอยู่ที่ 2,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,054 ล้านบาท หลังต่างชาติทยอยเปิดประเทศ ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 219 ล้านบาท

"ถือเป็นการตอกย้ำการกลับมาเทิร์นอะราวด์เต็มรูปแบบของ VNG หลังวิกฤตการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา จนถึงวิกฤต Covid-19 โดยมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ พยายามเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และ Product Mix ที่ราคาสูงกว่าสินค้า Core products เดิมอย่าง MDF Board และ Particle board เช่นไม้แบบก่อสร้าง หรือ Concrete Forming Plywood ที่มีโรงงานผลิตที่มีความทันสมัย และใหญ่สุดในประเทศไทย ซึ่งสามารถทดแทนการนำเข้ากว่าปีละ 10,000 ล้านบาท โดยเน้นขายในประเทศ"

สำหรับแผนการลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ในปี 64 นายวรรธนะ กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพสนับสนุนวงเงินให้กับ บริษัท วนชัย พาเนล อินดัสทรี่ส์ จำกัด บริษัทย่อยในการผลักดัน (1) โครงการโรงงานผลิตแผ่นไม้อัด (Concrete Forming Plywood) (2) โครงการโรงงานปิดผิวไม้ MDF และ PB เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และ (3) โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ได้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลดต้นทุนและสร้างรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ