นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/64 บริษัทมีรายได้รวม 92.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 85.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.29% และมีกำไรสุทธิ 3.80 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุนสุทธิ 12.70 ล้านบาทในชวงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ครึ่งแรกของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 176.01 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 191.84 ล้านบาท หรือลดลง 8.25% และมีผลขาดทุนสุทธิ 1.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 21.34 ล้านบาท หรือลดลง 93.53%
ผลประกอบการไตรมาส 2/64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ และโครงการเอกชนที่บริษัทได้รับงานมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งมีการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้นายประสงค์ ธาราไชย กลับมาดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารอีกครั้ง
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/64 มีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารสำนักงาน 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง บ้านพักพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการ โซนซี โครงการกรมโยธาธิการ โครงการจากกลุ่มโลตัส โครงการ The Custom House โครงการ Emsphere และโครงการ Holiday Inn Express Samui Bophut & Holiday Inn Resort Samui Bophut
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเสนองานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีงานในมือ(Backlog) ณ สิ้นเดือน มิ.ย.ที่ระดับ 454.5 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 146 ล้านบาท และยังมีงานที่อยู่ในระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการอีกจำนวน 95 ล้านบาท
"คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลต่อภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง จากภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ระหว่างเจราจาเรื่องการต่อสัญญาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเตรียมยื่นประมูลงานโครงการมิกซ์ยูส งานโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถรับงานได้ตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้ แม้ว่ากทม.จะมีประกาศปิดสถานที่ก่อสร้าง แต่โครงการส่วนใหญ่ของบริษัทยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ จากความร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้างในการจัดทำมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) เพื่อป้องกันการระบาดในแรงงานก่อสร้าง เพื่อจัดพื้นที่ในการทำงานรวมถึงแคมป์งานก่อสร้าง ภายใต้หลักเกณฑ์ และแนวทางตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนด"นายพงศ์ธร กล่าว