นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยคาดว่ายังคงมีแนวโน้มปรับตัว sideway down โดยมีแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งทางศูนย์บริหารสถานการณืโควิด-19 (ศบค.) มีมติเห็นชอบให้ขยายมาตรการเดิมในพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัดไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค.จากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในโรงงาน หรือ คลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลต่อการผลิตของภาคอุตสาหกรรมลดลง
ทั้งนี้ล่าสุดทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 64 เหลือเติบโต 0.7-1.2% จากเดิม 1.5-2.5% ประกอบกับ สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังมีการจัดชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ จึงทำให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,480-1,550 จุด
ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่องในเดือน ส.ค.นี้ อาทิ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ 2-3 รวมทั้งการรายงาน GDP ไตรมาส 2/64 รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหภาพยุโรป (อียู) และทางสหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน มิ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ส.ค สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน ส.ค.
รวมทั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 27-28 ก.ค. และการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในช่วงปลายเดือน ส.ค. นี้
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น Defensive Stock ได้แก่ ADVANC, TTW, EASTW และ BGRIM ซึ่งอยู่ใน SET50 และ sSET เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวจากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และแนวโน้มธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งระดับ P/E Ratio ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS กล่าวว่า จากความผันผวนของราคาทองคำและความกังวลในการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดในการประชุมเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,740-1,800 $/Oz โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้านจากความกังวลการปรับลดวงเงิน QE