ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี ลิมิเต็ด (เอ็มเคอาร์ 1) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของบมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ (เมอร์เมด) จะมีการลงนามในสัญญาสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่กับบริษัท เคนชาน่า เอชแอล เอสดีเอ็น บีเอชดี (เคเอ็นเอชแอล) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัท เคนชาน่า ปิโตรเลียม เบอร์แฮด (เคเอ็นพีอี) ในวันที่ 22 ตุลาคม 2550
ทั้งนี้ เคเอ็นเอชแอล ได้ตกลงที่จะดำเนินการเป็นผู้ออกแบบ สร้างเรือขุดเจาะที่ติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะบนแท่นขุดเจาะได้ด้วยตัวเอง (self-erected tender rig) และชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ (derrick equipment set) (รวมเรียกว่า "เรือขุดเจาะใหม่") คาดว่าจะทำการส่งมอบเรือในไตรมาส 4 ของปี พ.ศ. 2552
ราคาเรือขุดเจาะใหม่ เท่ากับ 136,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ เท่ากับ 4,663,440,000 บาท โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 34.29 บาท แยกเป็น ตัวเรือขุดเจาะที่ติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะบนแท่นขุดเจาะได้ด้วยตัวเอง เท่ากับ 91,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และ ชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ เท่ากับ 45,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้สัญญาดังกล่าวยังระบุเงื่อนไขให้สิทธิเอ็มเคอาร์ 1 ในการสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่ได้อีก 3 ลำ จากเคเอ็นเอชแอลด้วย
ปัจจุบัน เอ็มเคอาร์ 1 อยู่ในระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ๆ หลายรายในภูมิภาคเอเซีย เพื่อทำสัญญาขุดเจาะในระยะยาว และคาดว่า จะประกาศผลการทำสัญญาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยเอ็มดีเอส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100
ขณะที่ เมอร์เมดได้ตกลงกับเคเอ็นพีอีเพื่อจัดตั้งบริษัท ย่อยใหม่ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี แอลทีดี (เอ็มเคอาร์ 1) ด้วยทุนจดทะเบียนในขั้นต้น คือ 100 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และทุนชำระแล้วในขั้นต้น 100
ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 100 หุ้น ราคาหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ธุรกิจหลักของ เอ็มเคอาร์ 1 คือเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับงานขุดเจาะต่างๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งในฐานะที่เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะ ทั้งนี้ จะมีการเพิ่มทุนของเอ็มเคอาร์ 1 โดยมาจากผู้ถือหุ้นลงทุนตามสัดส่วนเมื่อมีการชำระเงินตามงวดสัญญาเป็นช่วงๆ
ในช่วงแรกของการจัดตั้งบริษัทเอ็มเคอาร์ 1 เอ็มดีเอส จะเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพียงผู้เดียว โดยถือหุ้นใน เอ็มเคอาร์ 1 ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนของเอ็มเคอาร์ 1 อย่างไรก็ตาม ในสัญญาการร่วมลงทุน (Shareholders Agreement) ระหว่างเอ็มดีเอสกับเคเอ็นพีวีในมาเลเซีย โครงสร้างผู้ถือหุ้นจะเปลี่ยนเป็น เอ็มดีเอส ถือหุ้นร้อยละ 75 และเคเอ็นพีวีถือหุ้น ร้อยละ 25 ในเอ็มเคอาร์ 1
เหตุผลในการร่วมลงทุนกับเคเอ็นพีวี เนื่องจาก เมอร์เมดจะได้ประโยชน์จากชื่อเสียงและค่าความนิยมของกลุ่มบริษัท เคเอ็นพีอี ที่มีอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง และเพื่อสร้างสัมพันธภาพร่วมกันในการก่อสร้างและส่งมอบเรือขุดเจาะอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาสมานประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายในการให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในการให้บริการขุดเจาะน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง และเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกลุ่มบริษัท เคเอ็นพีอี
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--