นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะสามารถทำสถิติใหม่อีกครั้ง หลังจากช่วงครึ่วปีแรกที่ผ่านมาบริษัทกำไรสุทธิแล้ว 3,325 ล้านบาท แม้คาดว่าทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะออกมาต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงจะกระทบในช่วงที่เหลือของปีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมาไม่สะท้อนให้เห็นเด่นชัด
สำหรับคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อยอมรับว่าวันนี้ต่ำกว่าในครึ่งปีแรก แม้ว่าบริษัทจะเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามลูกค้ายังคงได้รับผลกระทบส่งผลให้บริษัทต้องเพิ่มการตั้งสำรองให้สูงขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส 2/64 เพื่อรองรับลูกหนี้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยในช่วงเดือน ก.ค. และ ส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้เห็นสัญญาณจากลูกหนี้ที่ดีมาเข้าโครงการพักชำระหนี้ที่มากขึ้น โดยบริษัทเน้นควบคุมหนี้ที่มไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยในไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 4.4% เพิ่มขึ้นจากการนับรวมพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจาก Krung Thai Leasing (KTBL) เข้ามา ขณะที่ NPL ของธุรกิจบัตรเครดิต และ สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 1.5% และ 3.0% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/64 บริษัทเตรียมการตัดจำหน่ายหนี้สูญ(write-off) ประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินเชื่อรายย่อย ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจบริษัทกำลังดำเนินการปรับโครงสร้าง แต่อย่างไรก็ตาม หนี้เสียรวมจาก KTBL ทั้งหมดมีประมาณ 2,200 ล้านบาท บริษัทมีการตั้งสำรองเต็มจำนวนเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
"เราจะเน้นคุมหนี้เสีย คุมคุณภาพให้ดี ตลอดจนเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้น เพื่อรักษากำไรให้เป็นไปตามที่เราคาดไว้ ส่วนปีหน้าจะเป็นอย่างไรขอเวลาอีก 1-2 เดือนก่อน เพราะต้องดูว่าภาครัฐจะออกมาตรการอะไรออกมาหรือไม่" นายระเฑียร กล่าว
ด้านนางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต KTC เปิดเผยว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไตรมาส 3/64 จะยังคงติดลบ เนื่องจากในเดือนก.ค. ติดลบประมาณ 10% และ ส.ค. เห็นการติดลบอยู่ ซึ่งมาจากผลกระทบโควิด โดยเฉพาะหมวดการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ส่วนหมวดโรงพยาบาล ประกัน และ ซุปเปอร์มาร์เก็ตยังมีการเติบโต