นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ในไตรมาส 4/64 จะเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านๆ มา เนื่องจากจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ ได้แก่ The Reserve sathorn, The Privacy taopoon, Chapter thonglor 25, Chapter one flow bangpo, the privacy sukumvit 101/1, Plum condo sukumvit 97.1 และ The Tree Pattanakarn-Ekkamai ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไป 2 โครงการแล้ว โดยเชื่อมั่นว่าจะก่อสร้างให้เสร็จทั้งหมดในครึ่งปีหลังและส่งมอบได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจยอดขายปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 32,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,000 ล้านบาทเช่นกัน รวมถึงยังคงเป้าหมายเปิดโครงการใหม่ที่ 29 โครงการ มูลค่ารวม 26,630 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 14 โครงการ และครึ่งปีหลังเตรียมเปิดอีก 15 โครงการ รวมมูลค่า 17,838 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวเฮ้าส์ 8 โครงการ, บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ
พร้อมกันนี้ บริษัทจะทำการตลาดผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ภายใต้แนวคิด Tomorrow Reimagined เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค อันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Journey) ให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ด้วยการเพิ่มช่องทางการตลาด การบริการ และการขายผ่านออนไลน์ให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม
ที่ผ่านมา PSH ผลักดันการขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ในหลากหลายช่องทาง (Omni-channel) พร้อมสร้างความเข้มแข็งด้วยการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) และได้เพิ่มบริการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างสูงสุด อาทิ การทำทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tour) จัด Facebook Live พาเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 องศา บริการนัดหมายเยี่ยมชมส่วนตัว (Private Tour) บริการเยี่ยมชมโครงการแบบไม่ต้องลงจากรถ (Drive Thru Visit) และในกลุ่มคอนโดมิเนียมมีการยกประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ทั้งหมด ตั้งแต่แนะนำโครงการ จนถึงการปิดการขายมาไว้บน LINE Platform ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง รวมไปจนถึงการบุกตลาด E-Commerce ร่วมกับ ?ช้อปปี้? ซึ่งแต่ละกลยุทธ์นั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก
ล่าสุดได้เพิ่มช่องทางใหม่เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า สามารถเลือกซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในช่วงล็อกดาวน์นี้ได้ ผ่านการคลิกจองบ้านออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยได้คัดเลือกบ้านแลคอนโดมิเนียมยูนิตพิเศษใน แคมเปญ "ลดปลดล็อค ช็อคราคา" ซึ่งเป็น Hot Deal ที่รวบรวมทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่คัดเลือกจากที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมาจัดโปรโมชั่นพิเศษ มอบราคาและส่วนลด ของแถมต่าง ๆ มูลค่าสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท พร้อมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมจากปกติสูงสุดอีก 1 แสนบาท เฉพาะผู้จองบ้านและคอนโดมิเนียมผ่านเว็บไซต์ www.pruksa.com ที่จัดขึ้นเพียง 7 วันเท่านั้น ในระหว่างวันที่ 20-26 ส.ค.64 ตลอด 24 ชม.
ปัจจุบันสัดส่วนการขายผ่านออนไลน์ของบริษัทฯ อยู่ที่ 60% โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่า 60% ได้ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้ามาดูโครงการผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งการเติบโตของยอดขาย ส่วนหนึ่งก็มาจากออนไลน์
นายปิยะ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยเพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการทาวน์เฮ้าส์ มูลค่าโครงการประมาณ 500-1,000 ล้านบาทย่านรามอินทรา คาดว่าจะปิดดีลดังกล่าวได้เร็ว ๆ นี้
ส่วนแผนการออกหุ้นในปีนี้ บริษัทฯ ยืนยันว่ายังไม่มีแผนออกเพิ่มเติมเนื่องจากมีสภาพคล่องเหลือค่อนข้างมาก หลังที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ระบายสต๊อกออกไปได้ค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทจะเร่งดำเนินการคืนหนี้ให้มากที่สุด เพื่อลดภาระหนี้สิน และคาดว่าปลายปีนี้หนี้สินจะลดลงต่อเนื่อง
ด้านนายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตแตะ 500 ล้านบาท โดยจะเป็นรายได้จากการเปิดให้บริการรักษาโรคต่างๆ 300 ล้านบาท และรายได้พิเศษจากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาอีกประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนแล้วได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.64 เป็นต้นไป
"ปีนี้ยอมรับว่า คนก็ไม่ได้อยากเข้าโรงพยาบาล เป็นผลจากมีโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้จากโรงพยาบาลวิมุต ช่วง 7 เดือน (พ.ค.-ธ.ค.64) ที่ 300 ล้านบาท หรืออาจจะต่ำกว่าเป้าลงมา 20% เหลือ 200 ล้านบาท แต่ในวิกฤติก็มีโอกาส เนื่องจากโรงพยาบาลวิมุตได้รับการจัดสรรวัคซีนทางเลือกด้วย ทำให้จะได้รับรายได้พิเศษจากตรงนี้เพิ่มเติมอีก 200 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็อาจทำให้รายได้ของวิมุตปีนี้เกินเป้าหมายได้ หรืออยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท"นายแพทย์กฤตวิทย์ กล่าว
ในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) โรงพยาบาลเตรียมเปิดจองวัคซีนทางเลือก โมเดอร์นาเพิ่มเติม หลังจากได้รับแจ้งว่าได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมอีก โดยจะเริ่มเปิดให้จองได้วันแรกในวันพรุ่งนี้ และหากโรงพยาบาลได้รับมอบวัคซีนแล้วจะแจ้งวันเวลาในการฉีดให้ทราบต่อไป อีกทั้งโรงพยาบาลฯ ได้วางเป้าหมายการเติบโตในปี 65 จะมีรายได้เติบโต 15-20% โดยได้วางยุทธศาสตร์ในการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง ที่มีความถนัดทางด้านสมอง หัวใจ และกระดูก