นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม บีเค (MBK) คาดว่า งวดปี 50/51 (สิ้นสุดมิ.ย.)จะมีกำไรสุทธิเติบโตประมาณ 5% จากงวดปีก่อนที่มีกำไร 1.28 พันล้านบาท และจะมีรายได้เติบโต 5-7% จากงวดปีก่อนที่มีรายได้รวม 5.9 พันล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจโรงแรม ที่ขยายตัวหลังจากปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และ ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ที่เติบโตต่อเนื่องและมีการปรับราคาค่าเช่าทุกปีตามสัญญา 3-5%
ในงวดปี 50/51 บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนในการพัฒนาปรับปรุงโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส จำนวน 500-600 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 4-5 ปี โดยเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของบริษัท ปัจจุบันโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส มีอัตราผู้เข้าพัก 80%
"ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา รายได้จากศูนย์การค้าปรับลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่กระทบมากนัก เพราะเป็นไปตามที่เราประเมินไว้ ซึ่งอยู่ในช่วงหน้าฝน และเป็นช่วงที่ประชาชนชะลอการใช้จ่าย แต่หลังจากนี้ เมื่อภาพการเมืองชัดเจน ประกอบกับ ในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นช่วงไฮซีซั่นและมีวันหยุดเยอะ จะทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายได้เหมือนเดิม" นายสุเวทย์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวและสนามกอล์ฟ ที่จ.ปทุมธานี มูลค่าประมาณ 2-3 พันล้านบาท และ โครงการรีสอร์ท จ.ภูเก็ต โดยจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า
ขณะที่ การเข้าเทคโอเวอร์ห้างสรรพสินค้าอื่นนั้น นายสุเวทย์ กล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ก็ยังเจรจากันอยู่ 2 ราย ทั้งนี้ การเข้าเทคโอเวอร์ดังกล่าวจะช่วยทำให้บริษัทมีการขยายงานและเพิ่มรายได้ในอนาคต ในขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าก็ยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปี 56 บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายค่าเช่าพื้นที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์เพิ่มขึ้น ยอมรับว่ากระทบกำไรบริษัทในปีนั้น แต่คาดจะไม่รุนแรง โดยบริษัทจะหารายได้อื่นเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรสุทธิ ได้แก่ การปรับขึ้นค่าเช่าศูนย์การค้าเอ็มบีเค เป็นต้น
*ดันรายได้จากโรงแรมเป็น 25%ใน 5 ปี มองเติบโตตามท่องเที่ยว
นายสุเวทย์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมเป็น 25% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วน 18% เพราะเห็นว่าแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวจะเติบโตต่อเนื่องหลังจากที่ภาครัฐให้การสนับสนุน ขณะที่รายได้จากศูนย์การค้าก็ยังมีสัดส่วน 30% และธุรกิจข้าว 35% ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทร้พย์ สนามกอล์ฟ และอื่นๆ
ด้านนายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ MBK กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาในการปรับเปลี่ยนตึกเอ็มบีเคทาวเวอร์ เป็นโรงแรม ซึ่งมีพื้นที 1.7 หมื่นตร.ม. เนื่องจากมองว่า ในเขตพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพการเติบโตตามธุรกิจท่องเที่ยว และจะเป็นการสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่สามารถจะสรุปได้ว่าจะเห็นได้เมื่อไร โดยผู้เช่าตึกดังกล่าวจะหมดสัญญาเช่าในปี 56
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--