โบรกฯต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) เล็งผลดำเนินงานครึ่งปีหลัง (H2/64) โตดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ขานรับความต้องการอาหารเสริมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากกระแสรักสุขภาพ หนุนรายได้ Mega We Care (MWC) อีกทั้งไตรมาส 4/64 เป็นช่วง High Season ด้วย
ทั้งนี้ หลายโบรกเกอร์ต่างปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลังผลประกอบการไตรมาส 2/64 ออกมาดีกว่าคาด และโมเมนตัมของรายได้ที่ดีต่อเนื่องจากโควิด-19 New Normal คาดการณ์กำไรปีนี้ (64) อยู่ในช่วง 1,681-1,700 ล้านบาท โดยหลัก ๆ รับผลมาจากธุรกิจ Mega We Care ซึ่งมาจากรายได้ใน Southeast Asia และ Africa เติบโตต่อเนื่องด้วย และ GPM สูงขึ้น
หุ้น MEGA ปิดเช้าที่ 46.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท (+3.89%) ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าบวก 0.48 จุด
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟันันเซีย ไซรัส ซื้อ 56.00 เคทีบีเอสที ซื้อ 53.00 โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 50.00 คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อ 49.00 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 49.00 กสิกรไทย ซื้อ 47.00 ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ซื้อ 45.00 ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ซื้อ 45.00
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้น MEGA จัดได้ว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งฝ่ายวิจัยได้มีการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นหลังจากที่ผลกำไรงวดไตรมาส 2/64 ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งรับผลจากความต้องการอาหารเสริมที่ยังดีจากคนรักสุขภาพกันมากขึ้นด้วย ทำให้ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของ MEGA อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง (H2/64) เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/64 เป็นช่วง High Season ของธุรกิจด้วย ทำให้ครึ่งปีหลังมีโอกาสที่ผลดำเนินงานจะดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกรายได้ของ MEGA ทำได้ประมาณ 6,800 ล้านบาท ซึ่งทั้งปี 64 คาดว่าจะมีรายได้ 13,900 ล้านบาท ส่วนกำไรในครึ่งปีแรกทำได้ประมาณ 800 ล้านบาท ทั้งปี 64 คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยหลัก ๆ รับผลมาจากธุรกิจ Mega We Care (MWC)
ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 64-65 ของ MEGA ขึ้น +8% เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/64 ที่ดีกว่าคาดมาก และโมเมนตัมของรายได้ที่ดีต่อเนื่องจากโควิด-19 New Normal ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป health conscious มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ MEGA ได้ประโยชน์ในระยะยาว โดยปรับประมาณการรายได้และ GPM ขึ้น
ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ที่ 1,681 ล้านบาท (+21% YoY) บนสมมติฐานรายได้ MWC ขยายตัว +11% YoY จากรายได้ใน Southeast Asia และ Africa เติบโตต่อเนื่อง และรายได้ Maxxcare (MC) ขยายตัวต่อเนื่อง +11% YoY จาก principal ที่เพิ่มขึ้น และ GPM ขยายตัว YoY
สำหรับปี 65 คาดกำไรสุทธิที่ 1,876 ล้านบาท (+12% YoY) จากรายได้รวมที่เติบโต +10% YoY จากรายได้ MWC ขยายตัว +10% YoY, รายได้ MC เติบโตต่อเนื่อง +11% YoY และ GPM ทรงตัว YoY
MEGA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ที่ 504 ล้านบาท (+66% YoY, +51% QoQ) หนุนโดยรายได้รวมขยายตัว +37% YoY จากรายได้ Mega We Care (MWC) +34% YoY เติบโตในทุก region (Southeast Asia, Africa & others) และ MC +39% YoY และ GPM ที่ 41.9% ขยายตัว YoY จาก GPM ของ MWC ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านกำไรที่ขยายตัว QoQ จาก GPM ที่ขยายตัว
ส่วนบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้น MEGA กำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ที่ 504 ล้านบาท (+66%y-y, +55%q-q) ดีกว่าคาด หลักๆ มาจากรายได้ และ GPM ของธุรกิจ MWC ที่ดีกว่าคาด แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/64 คาดยังคงโตต่อเนื่อง y-y หลัก ๆ มาจากธุรกิจ MWC ที่ยังโต y-y ผลักดันรายได้และ GPM สูงขึ้น พร้อมปรับประมาณการกำไรปกติปี 64-66 ขึ้น +15%/+11%/+6% เพื่อสะท้อนรายได้ MWC ที่ดีกว่าคาดจากความต้องการอาหารเสริมที่สูงขึ้น และคาดจะกลายเป็น New Normal