นายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ ท่ามกลางสถานการ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ยังคงขยายวงกว้าง ทำให้บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยมีการพัฒนาระบบรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มาใช้ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับสูงและมีความมั่นคง
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทฯ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ ทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษประเภท จาน ถ้วย และถาด เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ในเบื้องต้นจะเน้นเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษบรรจุอาหาร เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ จะสนับสนุนให้มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่ดีขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในยุค New Normal ได้เป็นอย่างดี
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 64 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีกำไรสุทธิกว่า 18.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.57% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15.57 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และยอดขายที่เติบโตอย่างโดดเด่น
"ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตได้ดี เนื่องจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์อาหาร และถุงพลาสติก ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบเชิงบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังคงนิยมซื้อกลับ และสั่งอาหาร ผ่านระบบเดลิเวอรี่ ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์อาหารในรูปแบบต่างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปัจจัยหนุนดังกล่าวจะต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งหลังของปีนี้ สนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตเกิน 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้"
ในช่วงต้นปี 64 บริษัทฯได้เพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม ประกอบด้วยเครื่องจักร "FoodBox" ใหม่ 6 เครื่อง ทำให้กำลังการผลิตจาก 12 ล้านชิ้นต่อปีเป็น 31 ล้านชิ้นต่อปี และลงทุนในเครื่อง "FoodBowl" ใหม่ 1 เครื่อง มีกำลังการผลิต 10 ล้านชิ้นต่อปี และเครื่องบรรจุถุงหูหิ้วอัตโนมัติใหม่ 2 เครื่อง รวมทั้งมีแผนการวิจัยและพัฒนาเครื่องต้นแบบสำหรับถุง PP&HDPE โดยมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต