ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) โดยตลาดเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากมีแรงขายทำกำไรส่งเข้าฉุดหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ แต่ก็มีนักลงทุนบางกลุ่มส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนหุ้นบริษัทขนาดเล็ก นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านและกลุ่มธนาคารยังคงได้รับแรงซื้อเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่ออาจจะสิ้นสุดลงแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์รูดลง 40.24 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 14,047.31 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.41 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 1,546.63 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 6.12 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,747.11 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 7 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.79 พันล้านหุ้น
นายสก็อต ฟูลแมน นักวิเคราะห์จากบริษัทไอเอ อิงแลนเดอร์ แอนด์ โค กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในวันอังคารนับเป็นอีกวันหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวอย่างผันผวน เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง แต่ดัชนี Nasdaq กลับดีดตัวขึ้นในแดนบวก ทั้งนี้ก็เนื่องจากตลาดยังขาดข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆเข้ามาชี้นำ และนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้"
ก่อนหน้านี้ตลาดการเงินในสหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนส.ค.ลดลง 4,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ที่ระดับ 4.6% เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
อัตราการจ้างงานที่ลดลงในเดือนส.ค. เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินกำลังเผชิญความผันผวนอย่างหนักจากวิกฤตสินเชื่อที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ นักลงทุนส่งคำสั่งขายเข้าฉุดหุ้นกลุ่มที่มีทุนจดทะเบียนสูงด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งรวมถึงการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโบรกเกอร์ ได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 19 เซนต์ แตะที่ระดับ 80.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าราคาน้ำมันและราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอีก ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง
โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.24 ดอลลาร์ หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ร่วงลง 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.62 ดอลลาร์ และหุ้นเชฟรอน คอร์ป รูดลง 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นบาร์ริค โกลด์ ดิ่งลง 4.8% หุ้นฮาร์โมนี โกลด์ ไมนิง รูดลง 7%
ส่วนหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากจีเอ็มเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายรถบรรทุกอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง แต่หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 21%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--