นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเดินตามแผนในการเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก เช่น โซนเหนือ และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3/64 เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทได้มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มงวดในการบริหารต้นทุนองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care
สถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ โดยในไตรมาส 3/64 บริษัทมีความพร้อมที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เติบโตและผลักดันให้ยอดขายรวมถึงสิ้นไตรมาส 3/64 เพิ่มขึ้นไปที่เป็นไม่ต่ำว่า 2.2 พันล้านบาท และอีก 1.3 พันล้านบาทจะมาจากยอดขายในช่วงไตรมาส 4/64 เพื่อทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า 3.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังเพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขจุดที่เป็น Pain point ของลูกค้า และสามารถก่อสร้างบ้านส่งมอบให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งบริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้ยังทำได้ตามเป้าที่ 2 พันล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี 64 มียอดขาย 1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนแรกของปี 63 ซึ่งมียอดขาย 849.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65.08% และบริษัทมีรายได้รวม 522.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ในไตรมาส 2/64
โดยกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกของปี 64 อยู่ที่ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทยังมีต้นทุนทางการเงินลดลง 47.58% ด้วยปัจจัยสนับสนุนความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ในระดับสูง