นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรถแท็กซี่ มีมติมอบหมายให้ บมจ.ปตท.(PTT) เป็นผู้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ NGV ให้กับรถแท็กซี่จำนวน 5 หมื่นคันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในระยะเวลา 2 ปี ภายใต้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยจะทำการปรับเปลี่ยนให้กับรถแท็กซี่ที่มีอายุการใช้งานน้อยจำนวน 35,000 คันและรถแท็กซี่รุ่นเก่าอีกจำนวน 15,000 คัน
ทั้งนี้ ภาครัฐจะชดเชยให้กับ ปตท.ด้วยการอนุญาตให้ส่งออกก๊าซหุงต้ม(LPG)เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ได้ส่วนต่างกำไรระหว่างราคาส่งออกและราคาขายก๊าซหุงต้มในประเทศ
ส่วนแผนงานขยายสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น จะมีสถานีบริการขนาดใหญ่ 7 แห่ง และสถานีบริการขนาดเล็กในเขตเมืองและสถานีแม่ รวมทั้งเปลี่ยนสถานีบริการ LPG ในเขตกรุงเทพฯ ให้เป็นสถานี NGV โดยในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.จะมีสถานีบริการเพิ่ม 72 แห่ง สามารถรองรับความต้องการรถแท็กซี่ได้ 4,800 คัน ภายใต้เงินลงทุน 5,000 ล้านบาท
สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมลฑล ปัจจุบันมีการติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีแล้ว 15,000 คัน ส่วนอีก 50,000 คันยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวี
ด้าน นายประวุฒิ พิพิธสุขสันต์ ผู้แทนสมาคมแท็กซี่รับจ้าง กล่าวว่า สมาคมได้ยื่นเรื่องขอปรับขึ้นค่าบริการรถแท็กซี่ไปแล้วกว่า 6 เดือน ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ส่งเรื่องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาความเป็นไปได้ โดยเหตุผลในการขอปรับค่าบริการครั้งนี้ไม่ได้นำเรื่องของราคาเชื้อเพลิงมาพิจารณา แต่เป็นการปรับราคาตามระยะทางให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--