บลจ.ธนชาตเล็งปี 51 ออกกองทุน FIF ไม่ต่ำกว่าปีนี้ราว 6 พันลบ.

          บลจ.ธนชาต เผยปีหน้าเตรียมออกกองทุนเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (FIF) 4-5 กอง ไม่ต่ำกว่าปีนี้ที่ออก 4 กองมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งล่าสุดเสนอขายกองทุนเปิด"ธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์" มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ในช่วง 30 ต.ค.-8 พ.ย.50   
          พร้อมมั่นใจ ณ สิ้นปี 50 บริษัทสามารถเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(NAV)ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้น ก.ย.50 มีมูลค่า 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 49 ที่มี NAV จำนวน 4.8 หมื่นล้านบาท 
          นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทจะเน้นออกและเสนอขายกองทุน FIF เพื่อสร้างทางเลือกให้นักลงทุนมากขึ้น  พร้อมคาดว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยปี 50 บริษัทออกกองทุน FIF แล้ว 3 กองทุน รวมมูลค่า 4,555.99 ล้านบาท และในช่วง 30 ต.ค.- 8 พ.ย.50 เสนอขายกองทุนธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์(T-New Energy) มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน  
          และยังมีอีก 1 กองทุน FIF ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน มูลค่า 1 พันล้านบาท ที่อยู่ระหว่างรออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อาจจะขายในปลายปีนี้ ขณะนี้รอดูช่วงจังหวะเสนอขาย 
          ในปี 49 บริษัทออกกองทุน FIF 1 กอง เมื่อ  22 ต.ค.ทีผ่านมามี  NAV 1,124 ล้านบาท 
          "เราคิดว่าปีหน้าเราจะออกกองทุน FIF ไม่ต่ากว่าปีนี้ มองปีหน้าการแข่งขันจะจะสูงกว่าปีนี้ สิ่งที่เราทำคือให้ข้อมูลกับน้กลงทุนให้ได้มากที่สุด คิดว่านี่เป็นจุดขายขอเงรและเราให้ความสำคัญกับการลงทุนต่อเนื่องมากกว่าผลตอบแทน กองทุนในต่างประเทศมี 8 พันกว่ากองทุน...แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งการลงทุนในประเทศยังเป็น Core Business เราอยู่" นายบุญชัย กล่าว 
          นอกจากนี้ บลจ.ธนชาต ยังมั่นใจว่าในปีนี้ การเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 8 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้นก.ย. 50 บริษัทมี NAV อยู่ 7.4 หมื่นล้านบาท และจะเสนอขายกองทุน T-News Energy รวมทั้งในปลายปีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF ) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น 
*กองทุนพลังงานทางเลือกใหม่มีผลตอบแทนสูง
          นายตระกูลจิตร  จิตตไสยะพันธ์  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต กล่าวว่า เหตุที่กองทุนใหม่เลือกลงทุนในพลังงานทางเลือกใหม่ เพราะเห็นแนวโน้มผลตอบแทนที่ดี ขณะที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์  เชื้อเพลิงชีวภาพ เป็นต้น มีขนาดใหญ่ขึ้น ตามกระแสความต้องการพลังงานทางเลือกใหม่มากขึ้น 
          T-New Energy จะลงทุนในกองทุน MLIF NEW ENERGY  ซึ่งจดทะเบียนในประเทศลักซ์เซมเบิร์ก ที่ลงทุนกลุ่มธุรกิจทางเลือก เทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงาน และพลังงานที่สามารถผลิตขึ้นใหม่ได้  โดยส่วนใหญ่ลงทุนธุรกิจในยุโรป และสหรัฐ  โดยมี BlackRock Merrill Lynch Investment Managers เป็นผู้จัดการกองทุน 
          ในช่วงต้นปีถึงส.ค.50 มีผลตอบแทน 24.7% , ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง 33.8% และ ผลตอบแทน 3 ปีย้อนหลัง 151.4%
          "เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้พลังงานอื่นทดแทน เรามองว่ากองทุนพลังงานทางเลือกใหม่เป็น กองทุน Growth Stock ส่วนใหญ่ก็จะลงทุนในธุรกิจพลังงานลม แสงอาทิตย์" นายตระกูลจิตรกล่าว
          ทั้งนี้ ความเสี่ยงของกองทุนนี้ ได้แก่ เรื่อง เทคโนโลยีใหม่ ในการสร้างพลังงาน และ รู้ถึงความสำคัญและความจำเป็นของพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันมีธุรกิจทีดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือกประมาณ 1 พันกว่าแห่ง โดยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด 500-600 บริษัท  และคาดว่าอาจจะเกิดการควบรวมกิจการในอนาคต